โปรตุเกส

ลิสบอน 7 ก.ย. – เจ้าหน้าที่โปรตุเกสเผยผลการสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถรางในกรุงลิสบอนมื่อวันพุธที่แล้ว ว่าเกิดจากสายเคเบิลขาด ทำให้รถรางพุ่งแบบไร้การบังคับชนอาคารก่อนตกราง มีผู้เสียชีวิต 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน สำนักงานความปลอดภัยคมนาคมของโปรตุเกสเผยแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถรางสายกลอเรีย (Gloria) ตกรางและพุ่งชนอาคารเมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ผ่านมา โดยตรวจสอบสภาพรถรางที่เสียหายและรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทำให้เชื่อได้ว่า สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากสายเคเบิลที่ใช้ดึงรถรางไปตามเส้นทางเกิดขาดและหลุดออกจากกัน ทำให้รถรางพุ่งไปตามรางด้วยความเร็วสูงโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แม้พนักงานประจำรถรางคันที่ประสบเหตุจะพยายามใช้ระบบเบรคฉุกเฉินเพื่อหยุดรถรางแต่ก็ไม่เป็นผล รถรางพุ่งชนกระแทบเข้ากับอาคารหลังหนึ่งอย่างแรงบนเส้นทางตรอกแคบๆ ช่วงลงเนิน และยังชนกับรถรางอีกคันหนึ่งจนเสียหายไปด้วย เจ้าหน้าที่ยังพบว่ารถรางพุ่งด้วยความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะพุ่งชนอาคาร อุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย เป็นชาวโปรตุเกส 5 คน ซึ่งรวมถึงพนังานรถราง 1 คน ที่เหลือเป็นชาวอังกฤษ 3 คน เกาหลีใต้ 2 คน แคนาดา 2 คน ชาวอเมริกัน ยูเครน สวิส และฝรั่งเศสชาติละ 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน […]

ลิสบอน 4 ก.ย. – โปรตุเกสเร่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถรางในกรุงลิสบอนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน ขณะที่รัฐบาลประกาศให้วันนี้เป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศ หน่วยงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของโปรตุเกสเริ่มดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์รถรางกลอเรีย (Gloria) ตกรางและพุ่งชนอาคารเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 17 คนแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 คน โดย 5 คนมีอาการสาหัส ขณะนี้ทางทางการยังไม่มีการยืนยันรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีชายชาวเยอรมัน 1 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ลูกชายวัย 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้านสหภาพการขนส่งของโปรตุเกสเปิดเผยว่า มีคนงานของบริษัทคาร์ริสซึ่งเป็นผู้ดำเนินการรถรางกลอเรีย เสียชีวิตด้วย 1 คน โดยคนงานดังกล่าวทำหน้าที่เป็นพนักงานห้ามล้อ แต่ทางตำรวจยังไม่ยืนยันข้อมูลนี้ และยังไม่มีข้อมูลว่าบนรถรางมีผู้โดยสารจำนวนกี่คน  สำหรับสาเหตุทางการระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร แต่สื่อท้องถิ่นให้ความสนใจกับสายเคเบิลที่ช่วยให้ระบบถ่วงน้ำหนักทำงานได้ช่วยให้รถรางสามารถเคลื่อนที่ขึ้น-ลงเนินในกรุงลิสบอนได้ แต่ระบบดังกล่าวก็มีความเก่าแก่ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2457 แม้ว่าในปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นระบบใช้ไฟฟ้าแล้วก็ตาม จากเดิมที่เคยใช้ระบบน้ำ และระบบไอน้ำมาตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ว่าสายเคเบิลหลุดออกจากรางได้อย่างไร และเหตุใดระบบเบรกจึงไม่สามารถหยุดรถได้ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า รถเสียการควบคุมและไม่มีการเบรก เขาและอีกหลายคนที่อยู่ด้านล่างของเนินต่างวิ่งหนีตายเพราะกลัวว่ารถรางจะพุ่งลงมาชน แต่รถเกิดหลุดจากรางไปพุ่งชนเข้าอาคารหลังหนึ่งอย่างรุนแรงและยังชนกับรถรางอีกคันหนึ่งจนเสียหายไปด้วย ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคนหนึ่งก็บอกว่ารถพุ่งลงมาจากเนินเข้าชนอาคารด้วยความความเร็วสูงสุดโดยไม่มีการเบรกจนทำให้ตัวรถพังยับราวกับลังกระดาษ นายกรัฐมนตรีหลุยส์ มอนเตเนโกร ประกาศให้วันนี้เป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศ โดยเหตุการณ์นี้ถือเป็นอุบัติเหตุรถรางครั้งร้ายแรงที่สุด […]

มาดริด 4 ก.ย. – กลุ่มด้านสภาพอากาศโลก เตือนว่าสภาพอากาศร้อน แล้ง และลมแรงในฤดูร้อนนี้ที่ทำให้เกิดไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ของสเปน รวมถึงโปรตุเกส มีโอกาสเกิดซ้ำทุก 15 ปี อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ เวิลด์เวเธอร์แอททริบิวชัน ( World Weather Attribution) ซึ่งเป็นการรวมตัวนานาชาติ ได้ศึกษาเรื่องอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจมีต่อการเกิดเหตุการณ์อากาศสุดขั้วมากกว่า 110 การศึกษา กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ 13 คนในกลุ่มนี้วิเคราะห์ข้อมูลพบว่า สภาพอากาศสุดขั้วที่ทำให้เกิดไฟป่าทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย ซึ่งครอบคลุมบางส่วนของสเปนและโปรตุเกส มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดซ้ำในทุก 15 ปี อันเป็นผลจากสภาพภูมิอากาศปัจจุบันที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1.3 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ขณะที่โลกยุคก่อนอุตสาหกรรมมีโอกาสจะเกิดสภาพอากาศสุดขั้วดังกล่าวในทุก 500 ปี ฤดูร้อนปีนี้ไฟป่าได้เผาไหม้พื้นที่ในสหภาพยุโรปไปแล้วมากกว่า 6.25 ล้านไร่ ในจำนวนนี้ 2 ใน 3 เกิดขึ้นในสเปนและโปรตุเกส ไฟป่าคร่าชีวิตคน 8 คน คนจำนวนมากต้องอพยพ รถไฟและทางหลวงในหลายพื้นที่ไม่สามารถให้บริการได้ โดยเกิดขึ้นในช่วงที่ยุโรปเผชิญคลื่นความร้อนนานถึง 16 วัน […]

ลืสบอน 4 ก.ย. – เกิดอุบัติเหตุรถรางตกรางและชนกันในกรุงลิสบอน เมืองหลวงโปรตุเกส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย บาดเจ็บอีก 18 คน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย อุบัติเหตุเกิดขึ้นที่รถรางสายกลอเรีย (Glória Funicular) อันมีชื่อเสียง ในกรุงลิสบอน ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว รถตกรางและพุ่งชนกับรถรางอีกคัน เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และบาดเจ็บอีก 18 คน ในจำนวนนี้ 5 คนอาการสาหัส เจ้าหน้าที่บอกว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยสัญชาติหรือรายละเอียดอื่นๆ ของผู้ประสบเหตุ ภาพจากคลิปที่สื่อท้องถิ่นนำออกเผยแพร่ จะเห็นว่ารถรางคันที่อยู่ด้านล่างของเส้นทางเสียหายจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง ขณะอีกคันหนึ่งตกราง หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยฉุกเฉินกว่า 60 นายลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือนำตัวผู้ที่ติดอยู่ในซากรถรางคันที่เสียหายก่อนส่งโรงพยาบาล ประธานาธิบดีมาร์เซลู เรเบลู เด ซูซา ผู้นำโปรตุเกส และนายกเทศมนตรีกรุงลิสบอน ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถระบุสาเหตุของอุบัติเหตุได้โดยเร็ว เบื้องต้นสื่อท้องถิ่นรายงานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากรถรางคันหนึ่งเกิดหลุดออกจากราง จนไหลไปตามสายเคเบิลที่ยึดไว้ก่อนพุ่งชนกระแทกเข้ากับอาคารหลังหนึ่งอย่างแรง รถราง (funicular) ในโปรตุเกสเป็นระบบรถรางที่ใช้สายเคเบิลหรือเชือกลาก ออกแบบมาเพื่อวิ่งขึ้นลงเนินที่มีความลาดชันสูง […]

มาดริด 19 ส.ค. – สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในสเปนและโปรตุเกสยังคงวิกฤติ ไฟป่าหลายจุดยังไม่สามารถควบคุมได้ พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติปิคอส เดอ ยูโรปา ทางตอนเหนือของสเปนไฟป่ายังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยควันไฟจนท้องฟ้ามืดมัวเป็นสีส้ม ส่วนที่จังหวัดอูเรนเซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือเกิดไฟป่าขึ้นหลายจุด จุดแรกเป็นไฟป่าที่กำลังเผาไหม้พื้นที่ป่าใกล้กับเมืองลารูโก และจุดที่สองอยู่ใกล้กับเมืองปราโดอัลบาร์  นอกจากนี้ที่เมืองอาบารัน ในจังหวัดมูร์เซียไฟป่ากำลังลุกลามอยู่ในเขตเทือกเขาเซียราเอล โอโร โดยไฟเริ่มปะทุขึ้นหลังจากเกิดพายุเมื่อวานนี้ และขณะนี้กำลังลุกลามอย่างรุนแรงเผาไหม้พืชพรรณไปเป็นจำนวนมาก ข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสเปนระบุว่า ปีนี้สเปนเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ยาวนานถึง 16 วัน  ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสามนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูล ส่งผลให้อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 45 องศาเซลเซียสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ไฟป่าปีนี้เผาพื้นที่ไปแล้วกว่า 2.15 ล้านไร่ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปรตุเกสสถานการณ์ไฟป่าวิกฤติไม่แพ้กัน ไฟป่าในเมืองปัมปิโลซา ดา แซร์รา ในเขตโกอิมบรา ลุกไหม้อย่างรุนแรงกำลังลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือนำสุนัขหลายตัวออกจากบ้านเรือนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่ทางการต้องขยายเวลาแจ้งเตือนภัยทั่วประเทศออกไปจนถึงวันอังคารนี้ตามเวลาท้องถิ่นเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่ารุนแรง ระบบข้อมูลไฟป่ายุโรปแจ้งว่า ปีนี้ไฟป่าในโปรตุเกสเผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วราว 1.35 ล้านไร่ ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 18 ปีที่ผ่านมาถึง 4 เท่า และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน สถานการณ์ไฟป่าในยุโรปตอนใต้ในปีนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ […]

กงโดมาร์, โปรตุเกส, 5 ก.ค. – เหล่านักเตะของสโมสรลิเวอร์พูลต่างเดินทางมารวมตัวกันที่เมืองกงโดมาร์ ประเทศโปรตุเกสในวันนี้ เพื่อเข้าร่วมพิธีศพของ ดิโอโก้ โชต้า เพื่อนร่วมทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกับน้องชายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในสเปนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีม, ควิวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตู และ อาร์เน่ สล็อต ผู้จัดการทีม รวมถึงเพื่อนร่วมทีมทั้งในปัจจุบันและอดีต ได้เดินทางถึงโปรตุเกสเมื่อคืนวันศุกร์เพื่อร่วมไว้อาลัยแด่กองหน้าผู้ล่วงลับและ อังเดร ซิลวา น้องชายของเขาทั้งหมดคาดว่าจะเข้าร่วมพิธีศพ ณ โบสถ์ “อีเกรฌา มาตรีซ” (Igreja Matriz) พร้อมกับครอบครัวผู้โศกเศร้าและชาวเมืองกงโดมาร์หลายร้อยคน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของโปรตุเกสที่โชต้าเติบโตมา รูเต้ คาร์โดโซ่ ภรรยาของโชต้า ซึ่งเพิ่งแต่งงานกันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน คาดว่าจะมาพร้อมกับลูกๆ ตัวน้อยทั้งสามคนของทั้งคู่ การเสียชีวิตของโชต้าในวัย 28 ปี สร้างความตกตะลึงไปทั่ววงการฟุตบอลและกว้างขวางออกไป พร้อมข้อความแสดงความเสียใจจากผู้นำประเทศต่างๆ รวมถึงบุคคลในวงการกีฬา เชื่อกันว่าสองพี่น้องกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังท่าเรือในสเปนเพื่อเดินทางไปยังอังกฤษ เมื่อรถลัมโบร์กินีของพวกเขาเสียหลักพุ่งลงข้างถนนและเกิดไฟลุกไหม้ เมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี ตำรวจสงสัยว่ายางรถยนต์เกิดระเบิดจนรถเสียหลัก.-813.-สำนักข่าวไทย

ลิสบอน 1 มิ.ย. – ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในโปรตุเกสเมื่อเดือนเมษายน สร้างความเสียหายให้แก่ภาคธุรกิจมากกว่า 2,000 ล้านยูโร (มากกว่า 74,200 ล้านบาท) และยังหาสาเหตุไม่พบจนถึงขณะนี้ เว็บไซต์วายอีพีนิวส์ (YEP News) ของยุโรปเผยแพร่ข่าวที่ใช้เอไอ (AI) แปลจากภาษาโปรตุเกสของอาร์ทีพี (RTP) ซึ่งเป็นบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพของโปรตุเกสว่า สมาคมอุตสาหกรรมโปรตุเกสสำรวจพบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟฟ้าดับที่เกิดขึ้นนานหลายชั่วโมงทั่วโปรตุเกสและสเปนเมื่อวันที่ 28 เมษายน และควรได้รับการเยียวยา สมาคมฯ กำลังพิจารณาเรื่องยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย สมาคมฯ ได้สอบถามธุรกิจต่าง ๆ มากกว่า 1,600 แห่งทันทีที่ไฟฟ้าดับ เกือบครึ่งหนึ่งเป็นธุรกิจด้านอุตสาหกรรม และเกือบ 1 ใน 3 เป็นธุรกิจด้านบริการ ผลสำรวจพบว่า ธุรกิจร้อยละ 95 ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับ โดยประเมินความเสียหายไว้มากกว่า 2,000 ล้านยูโร ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ภาคการผลิต ซึ่งได้รับผลกระทบทางตรงจากการที่สายการผลิตและอุปกรณ์การผลิตต้องหยุดทำงานเพราะไฟฟ้าดับ ส่วนผลกระทบทางอ้อม คือ การผิดนัดกับลูกค้า ระบบและข้อมูลเสียหาย ความเสียหายในการผลิต […]

มาดริด 29 เม.ย. – สเปนและโปรตุเกส กลับมามีไฟฟ้าใช้เกือบปกติแล้วในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และกำลังเร่งหาสาเหตุที่ทำให้ทั้ง 2 ประเทศ เกิดไฟฟ้าดับทั่วประเทศอย่างฉับพลันพร้อมกัน เรด อิเล็กทริกา (Red Electrica) บริษัทผู้จ่ายกระแสไฟฟ้าของสเปนแจ้งว่า สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ารองรับความต้องการใช้งานของคนทั้งประเทศแล้วตั้งแต่เช้าวันนี้ เช่นเดียวกับ REN บริษัทผู้จ่ายกระแสไฟฟ้าของโปรตุเกสที่แจ้งว่า สถานีไฟฟ้าย่อยทั้ง 89 แห่งทั่วประเทศกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าตามปกติแล้ว โรงเรียนและสำนักงาน รวมถึงบริการขนส่งมวลชนในสเปนกลับมาทำการอีกครั้งในวันนี้ สภาพการจราจรที่ติดขัดเริ่มเบาบางลง โรงพยาบาลส่วนใหญ่กลับมามีไฟฟ้าใช้ตามปกติ ขณะที่บางแห่งยังคงต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ด้านรัฐบาลโปรตุเกสแจ้งว่า โรงพยาบาล รถไฟฟ้าและรถไฟกลับมาให้บริการตามปกติ ส่วนท่าอากาศยานมีเที่ยวบินล่าช้าอยู่บ้าง สเปนและโปรตุเกสเกิดไฟฟ้าดับพร้อมกันราวเวลา 12.30 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ทั้ง 2 ประเทศต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่บางพื้นที่ของฝรั่งเศสเกิดไฟฟ้าดับชั่วขณะ ผู้บริหารของเรด อิเล็กทริกากล่าวกับสื่อในช่วงเย็นวันจันทร์ว่า ความไม่เสถียรของโครงข่ายไฟฟ้าเป็นเหตุให้การเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของสเปนและฝรั่งเศสผ่านเทือกเขาพิเรนีสถูตัดขาด ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าของสเปนล่มทั้งหมด สเปนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั้งประเทศเมื่อวานนี้จุดกระแสถกเถียงว่า ความไม่แน่นอนของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทำให้ระบบไฟฟ้าของประเทศมีความเสี่ยงที่จะล่มเช่นนี้อีกหรือไม่.-814.-สำนักข่าวไทย

มาดริด 29 เม.ย.- หลายพื้นที่ของสเปนและโปรตุเกส เผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ กระทบต่อหลายภาคส่วนในประเทศ จนรัฐบาลสเปนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน หลายพื้นที่ขนาดใหญ่ของสเปนและโปรตุเกส ซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย รวมถึงบางส่วนของฝรั่งเศส เผชิญปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ตั้งแต่ช่วงสายของเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วประเทศ การขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟโดยสาร รถไฟใต้ดิน และเครื่องบินโดยสารเป็นอัมพาต การจราจรติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากสัญญาณไฟจราจรตามแยกต่าง ๆ ใช้การไม่ได้ เที่ยวบินโดยสารล่าช้าและยกเลิกจำนวนมาก โรงพยาบาลและโรงเรียนไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้คนจำนวนมากติดอยู่ในรถไฟใต้ดิน รถไฟโดยสาร และในลิฟต์ เฉพาะในกรุงมาดริด เมืองหลวงสเปน ประชาชนนับพันคน ออกมายืนอยู่ตามถนนนอกอาคารสำนักงาน มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมการจราจร ขณะที่ทหารถูกส่งไปช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่ในรถไฟโดยสารหลายขบวน บริษัทไฟฟ้าและผู้ประกอบการไฟฟ้าทั้งในสเปนและโปรตุเกส พยายามอย่างหนักในการแก้ปัญหาเพื่อกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง ขณะที่รัฐบาลสเปนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเรียกประชุมกับรัฐบาลโปรตุเกสเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาไฟฟ้าดับ บริษัท Red Eléctrica ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่งไฟฟ้าของสเปนแจ้งว่า ไฟฟ้าดับ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุในทันทีอาจกินเวลานาน 6 ถึง 10 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน แถลงเมื่อกลางดึกวานนี้ว่า กว่าครึ่งหนึ่งประเทศเริ่มกลับมามีไฟฟ้าใช้แล้ว ส่วนที่เหลือของประเทศน่าจะกลับมาใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติในวันนี้ รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อหาสาเหตุและผลกระทบของเหตุการณ์นี้ พร้อมทุ่มเททรัพยากรที่มีทั้งหมดเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด โดยยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เหตุไฟฟ้าดับจะเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ ด้านรัฐบาลสเปนส่งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายความมั่นคงกว่า […]

เปียงยาง 7 เม.ย.- เกาหลีเหนือจัดแข่งวิ่งมาราธอนนานาชาติครั้งแรกในรอบ 6 ปี ขณะที่โปรตุเกสจัดแข่งวิ่งการกุศลหาทุนช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เกาหลีเหนือจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการเปียงยาง อินเตอร์เนชันแนล มาราธอน ครั้งที่ 31 ที่สนามกีฬาแห่งชาติในกรุงเปียงยางเมื่อวานนี้ เป็นการกลับมาจัดแข่งวิ่งมาราธอนในกรุงเปียงยางครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักวิ่งจากต่างประเทศกว่า 200 คน เช่น จีน เอธิโอเปีย โรมาเนีย ลงแข่งขันกับนักวิ่งเกาหลีเหนือ โดยมีผู้ชมในสนามราว 50,000 คน นักวิ่งมาราธอนวิ่งไปตามเส้นทางในกรุงเปียงยาง ผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ และมุ่งหน้าออกไปชานเมือง ก่อนกลับไปเข้าเส้นชัยที่สนามกีฬาอันเป็นจุดปล่อยตัว ปรากฏว่านักวิ่งประเทศเจ้าภาพเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทั้งประเภทชายและหญิง เกาหลีเหนือปิดพรมแดนมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาดในปี 2563 และทยอยยกเลิกมาตรการจำกัดตั้งแต่ปี 2566 โดยเพิ่งอนุญาตให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าประเทศ แต่ยังไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวนานาชาติตามปกติ และในวันเดียวกันที่โปรตุเกส ผู้หญิงทุกวัยจำนวนหลายพันคนร่วมกันวิ่งฝ่าสายฝนในกรุงลิสบอน เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับมะเร็งเต้านม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่สวมชุดสีชมพู มีแฟนหนุ่ม สามี รวมถึงเด็ก ๆ เข้าร่วมด้วย เพื่อแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน […]

มาเก๊า 20 ธ.ค.- วันนี้เป็นวันครบรอบ 25 ปีที่โปรตุเกสส่งมอบเกาะมาเก๊ากลับคืนสู่การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเดินทางไปร่วมพิธีครบรอบด้วย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีพิธีเชิญธงชาติจีนและธงประจำเกาะมาเก๊าขึ้นสู่ยอดเสาเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีที่โปรตุเกสส่งมอบเกาะมาเก๊าคืนให้รัฐบาลจีน โดยมีนายแซม โฮว ฟาย หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะมาเก๊าชุดใหม่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นเข้าร่วมในพิธี หลังจากนั้นมีการประชุมฉลองครบรอบ 25 ปี พร้อมทั้งพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของคณะผู้บริการเกาะมาเก๊าชุดใหม่ ประธานาธิบดีสีใช้โอกาสนี้กล่าวสุนทรพจน์แสดงความชื่นชมว่า เกาะมาเก๊ามีการพัฒนาอย่างมาก นับตั้งแต่กลับสู่การปกครองของจีนเมื่อปี 2542 เป็นต้นมา นายสีกล่าวด้วยว่า นโยบายการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบที่จีนใช้กับเขตปกครองพิเศษมาเก๊าและฮ่องกงถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เป็นนโยบายที่ดีและจะต้องดำเนินการต่อไปอีกในระยะยาว ผู้นำจีนยังแสดงความคาดหวังด้วยว่า รัฐบาลชุดใหม่ของมาเก๊าจะส่งเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจด้วยแนวทางที่หลากหลายอย่างเหมาะสมนอกเหนือไปจากอุตสาหกรรมกาสิโนที่มีชื่อเสียงระดับโลกของเกาะมาเก๊า.-816(814).-สำนักข่าวไทย

มาเก๊า 18 ธ.ค.- คณะเชิดสิงโตแสดงการเชิดสิงโตบนลานนอกอาคารที่ความสูง 233 เมตรของมาเก๊าทาวเวอร์ เพื่อฉลองโอกาสครอบรอบ 25 ปี ที่มาเก๊ากลับสู่การปกครองของจีนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2542 สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนแพร่ภาพมุมสูง เห็นผู้เชิดสิงโตหลากสีสันทั้ง 8 คู่ แสดงการเชิดสิงโตไปตามลานวงกลมที่อยู่รอบอาคาร ทั้งหมดเชิดไปตามจังหวะเสียงกลองและฉาบอย่างคึกคักสนุกสนานและท้าความสูง โดยมีสายสลิงรั้งตัวไว้เพื่อความปลอดภัย ก่อนจะพร้อมใจกันนั่งลงโดยหันหัวสิงโตออกนอกอาคาร เพื่อปล่อยแผ่นป้ายคำอวยพรภาษาจีนออกมาจากปากสิงโต ซีซีทีวีระบุว่า การเชิดสิงโตเป็นประเพณีที่แพร่หลายในมาเก๊า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมาเก๊าที่เป็นอาณานิคมของโปรตุเกสตั้งแต่ปี พ.ศ.2100 กลับสู่การปกครองของจีนในฐานะเขตบริหารพิเศษเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2542 การเชิดสิงโตที่เคยเป็นการแสดงตามท้องถนนกลายเป็นกีฬายอดนิยม และมีคนรุ่นใหม่จำนวนมากเข้ารับการฝึกฝนตั้งแต่เด็กเพื่อสืบสานประเพณี นอกจากนี้การเชิดสิงโตยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมาเก๊าในปี 2563 ด้วย.-814.-สำนักข่าวไทย