สส. รวมชื่อยื่นศาลวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA

รัฐสภา 7 ก.ย.-เปิดหนังสือ สส. รวมชื่อส่งประธานสภาฯ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA ยุบสภา 4 เดือน-ทำประชามติแก้ รธน. แลกโหวตนั่งนายกฯ เหตุเข้าข่ายครอบงำชี้นำพรรคการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์

วันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสภาฯ ได้ร่วมกันเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น สส. ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (2) ประกอบมาตรา 185 (1) และ (2) ซึ่งประทับตรารับหนังสือโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 11.38 น. ลงเลขที่รับ 14239/2568 มีเนื้อหาระบุว่า


ด้วยผลจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 170 (4) ประกอบ มาตรา 160 (5) ตามเรื่องพิจารณาที่ 17/2568 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 จึงทำให้รัฐมนตรีต้องพ้นจาก ตำแหน่งทั้งคณะ ตามมาตรา 167 (1) ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคหนึ่ง (1) บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งในกรณีดังกล่าวให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ยกเว้นนายกรัฐมนตรีจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้ ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีนั้น

​เมื่อนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งข้างต้นแล้ว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทน ซึ่งตามหลักการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย พรรคการเมืองที่จะเสนอบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องรวบรวมเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ตามที่บัญญัติไว้ในวรรคสามของมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย


ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพรรคภูมิใจไทยได้รวบรวมเสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองอื่นได้เพียงไม่เกิน 146 เสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีอยู่ใน ปัจจุบัน 492 เสียง เมื่อไม่สามารถหาเสียงในจำนวนที่มากกว่ากึ่งหนึ่งได้จึงได้ทำข้อตกลงร่วมกับพรรคประชาชน โดยตกลงกันว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชนจะให้ความเห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขที่พรรคประชาชนและพรรคภูมิไทย งตกลงร่วมกัน ดังต่อไปนี้

1.นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

2.ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 256 นั้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป


3.ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 256 นั้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยจะเร่งผลักดันร่างรัฐธรรมญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้โดยเร็ว

4.เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใดๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก

5.พรรคประชาชนยืนยันเป็นฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

รายละเอียดปรากฏตามเอกสารสิ่งที่ส่งมาด้วย

ข้าพเจ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้มีรายชื่อดังต่อไปนี้ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่าการกระทำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมืองหลายประการ ดังนี้

1.เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กล่าวคือ ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 บัญญัติว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์

แต่การที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ทำข้อตกลงร่วมกันดังกล่าว และกำหนดเงื่อนไขให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะจัดตั้งขึ้นในโอกาสต่อไป ต้องปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่พรรคประชาชนกำหนดทั้ง 5 ประการ ถือว่าเป็นการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำของพรรคประชาชน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพรรคประชาชน โดยมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวมแต่ประการใด

นอกจากนี้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 บัญญัติว่าในการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรี ต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และต้องปฏิบัติหน้าที่ และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ เปิดเผย และมีความรอบคอบ ระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม

แต่เมื่อพิจารณาตามเงื่อนไขตามบันทึกข้อตกลงร่วมดังกล่าวแล้ว มีการกำหนดให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน ทั้งที่ระยะเวลาของสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระในเดือนพฤษภาคม 2570 อีกทั้งมีการกำหนดว่าพรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใดๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวขัดต่อหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่โดยปกติแล้วรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินจะต้องมีเสียงข้างมากจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการบริหารการแผ่นดิน

2.การกระทำของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนเป็นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกันเพื่อให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อันเป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 46 และการกระทำดังกล่าวยังถือว่า พรรคภูมิใจไทยยินยอมหรือกระทำการอันทำให้พรรคประชาชนกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคภูมิใจไทย ในลักษณะที่ทำให้พรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทย ขาดความเป็นอิสระ

ส่วนพรรคประชาชนก็กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยในลักษณะที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยขาดความเป็นอิสระเช่นกัน ซึ่งเป็น การฝ่าฝืนมาตรา 28 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งการกระทำของทั้งสองพรรคการเมืองดังกล่าวข้างต้น ถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจใน การปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและเป็นการกระทำอันเป็น ปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) และ (3) ด้วย

การกระทำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าจึงเห็นว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้จัดตั้งรัฐบาลแล้วต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่พรรคประชาชนกำหนด กรณีย่อมถือได้ว่า พรรคประชาชนโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค ประชาชนได้ใช้สถานะของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันมีลักษณะเป็นการก้าวก่าย แทรกแซง เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ผู้อื่น หรือของพรรคประชาชน ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของคณะรัฐมนตรีและหน่วยงาน ของรัฐ ที่ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขที่พรรคประชาชนกำหนด และดำเนินการต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ตกลงนั้น ต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการ เช่น การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ การออกเสียงประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับ ใหม่ เป็นต้น

ดังนั้น การกระทำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 185 (1) และ (2) ของรัฐธรรมนูญ จึงทำให้สมาชิกภาพของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (7)

ข้าพเจ้าจึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 2 กราบเรียนต่อท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอได้โปรดส่งคำร้องไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้สมาชิกภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวต่อไป จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย. – “อนุทิน ชาญวีรกูล” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ถวายสัตย์จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกําลังความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม ขณะที่พรรคร่วมฯ เข้ายินดีพร้อมเพรียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 กันยายน 2568) เวลา 11.30 น. ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ ซึ่งพรรคจัดไว้ที่ชั้น 4 ของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย จากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

สส. รวมชื่อยื่นศาลวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA

รัฐสภา 7 ก.ย.-เปิดหนังสือ สส. รวมชื่อส่งประธานสภาฯ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้นสมาชิกภาพ ปมทำ MOA ยุบสภา 4 เดือน-ทำประชามติแก้ รธน. แลกโหวตนั่งนายกฯ เหตุเข้าข่ายครอบงำชี้นำพรรคการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ วันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสภาฯ ได้ร่วมกันเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น สส. ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (2) ประกอบมาตรา 185 (1) และ (2) ซึ่งประทับตรารับหนังสือโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 11.38 น. […]

“อนุทิน” ยัน “ธรรมนัส” นั่งรัฐมนตรี ไม่มีปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.-“อนุทิน” ยัน “ธรรมนัส” นั่งรัฐมนตรี ไม่มีปัญหา ขณะที่เจ้าตัวเหงื่อแตก ถามกลับสื่อ “มีใครอยากนั่งกลาโหม” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการดื่มกาแฟระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะแนะนำกระทรวงเลยหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส นำรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคกล้าธรรมมามอบให้ ส่วน ร.อ.ธรรมนัส จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการด้วยตัวเองหรือไม่ ทั้งคู่ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนที่นายอนุทิน จะออกสีหน้ายิ้มแย้ม และบอกต่อว่า “ไม่มีปัญหา” จึงพยายามถามต่อว่า เป็นกระทรวงที่ถนัดใช่หรือไม่ ทั้งคู่หัวเราะแทนคำตอบ ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า “บอกไม่มีปัญหา ก็ยังจะถาม” ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส บอกสวนขึ้นมาว่า “พอเริ่มถามแล้วเหงื่อออก” พร้อมนำกระดาษขึ้นมาซับหน้า ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับว่า ร.อ.ธรรมนัส อยากคุมกระทรวงกลาโหมเองหรือไม่ เจ้าตัวร้องโอ้โห ขณะที่นายอนุทิน หันไปมองแล้วกล่าวว่า “ถามสิ […]