ซิดนีย์ 2 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า มีสตรี 1 รายเสียชีวิต และประชาชนมากกว่า 120,000 คน ต้องอยู่ในสภาพที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังจากเกิดกระแสลมแรงและฝนตกอย่างหนักทางใต้ของออสเตรเลีย
สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวว่า เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในรัฐวิกตอเรียและรัฐแทสเมเนีย ในขณะที่สตรีวัย 63 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้ล้มทับห้องพักของเธอในสวนสาธารณะที่เป็นที่พักในวันหยุดพักผ่อน ที่อยู่บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐวิกตอเรียกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ จาซินตา อัลแลน
มุขมนตรีของรับวิกตอเรียก ล่าวว่า สำนักงานบริการฉุกเฉินของรัฐวิกตอเรีย ได้รับโทรศัพท์มากกว่า 2,800 ครั้ง เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แจ้งเรื่องต้นไม้โค่นล้มและอาคารได้รับความเสียหาย มีประชาชนอย่างน้อย 121,000 คน ต้องอยู่ในที่พักในสภาพที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันนี้ ลดลงจากเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ไฟดับจนกระทบประชาชนถึง 180,000 คน เจ้าหน้าที่ยังคงประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากสภาพอากาศ ในขณะที่กระแสลงแรงเกือบ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดกระหน่ำในรัฐวิกตอเรียนเมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลรัฐวิกตอเรียแนะนำประชาชนในวันนี้ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ริมฝั่งทะเล เนื่องจากจะมีคลื่นแรงอันตราย พื้นที่ดินบริเวณริมหน้าผามีสภาพไม่มั่นคงและมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ
รัฐแทสเมเนียทางใต้ของออสเตรเลีย ก็มีสภาพอากาศแปรปรวน ประชาชนหลายพันคนไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันอาทิตย์.-813.-สำนักข่าวไทย