สภาพอากาศแปรปรวนในออสเตรเลียทำให้ ปชช.ไม่มีไฟฟ้าใช้
เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า มีสตรี 1 รายเสียชีวิตและประชาชนมากกว่า 120,000 คนต้องอยู่ในสภาพที่ไม่มีไฟฟ้าใช้หลังจากเกิดกระแสลมแรงและฝนตกอย่างหนักทางใต้ของออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า มีสตรี 1 รายเสียชีวิตและประชาชนมากกว่า 120,000 คนต้องอยู่ในสภาพที่ไม่มีไฟฟ้าใช้หลังจากเกิดกระแสลมแรงและฝนตกอย่างหนักทางใต้ของออสเตรเลีย
นเวสต์เอชเค (InvestHK) หน่วยงานกำกับดูแลการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สังกัดรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน รายงานว่ามีผู้ประกอบการจากกลุ่มประเทศตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
รัฐบาลของรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่ฟาร์มสัตว์ปีกแห่งที่ 4 ใกล้กับนครเมลเบิร์นและใกลกับฟาร์มสัตว์ปีกที่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกก่อนหน้านี้
ซิดนีย์ 14 ก.พ.- ผู้อาศัยทั่วรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันนี้ หลังจากกระแสลมแรงจัดโค่นเสาไฟฟ้าล้มและทำให้เกิดไฟป่า ลมพัดแรงเมื่อวานนี้ทำให้สายส่งไฟฟ้าใช้การไม่ได้ กระทบต่อการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าของเอจีแอล (AGL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของออสเตรเลีย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้า 500,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ ถือว่ามากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์รัฐวิกตอเรีย เอจีแอลเผยว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 2 เครื่องกลับมาทำงานตามปกติแล้ว ส่วนอีก 2 เครื่องจะกลับมาทำงานตามปกติในอีก 24 ชั่วโมง และต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้ากลับมามีไฟฟ้าใช้ตามปกติครบทุกราย นางจาซินตา อัลเลน มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียเผยกับสื่อว่า ผู้ใช้ไฟฟ้า 220,000 รายยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันนี้ อย่างไรก็ดี สถานการณ์กินเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง จึงยังไม่ต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน และกำลังดีขึ้นอย่างรวดเร็ว มีรายงานชายเสียชีวิตเพราะถูกสิ่งของปลิวใส่ บริการรถไฟในนครเมลเบิร์นที่เป็นเมืองเอกของรัฐถูกระงับเป็นบางสาย มีการปิดโรงเรียนและศูนย์ดูแลเด็กหลายแห่ง ขณะที่บริการของเทลสตรา (Telstra) บริษัทสื่อสารใหญ่ที่สุดในประเทศใช้งานไม่ได้ในบางพื้นที่ ลมพัดแรงและฟ้าผ่าเมื่อวันอังคารยังทำให้เกิดไฟป่า 3 จุด ทางฝั่งตะวันตกของรัฐ นักดับเพลิงพยายามควบคุมไฟ และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 นาย สำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า อากาศในวันนี้จะดีขึ้น อุณหภูมิจะลดลงเหลือราว 25 องศาเซลเซียส […]
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกมาเตือนประชาชนในวันนี้ให้หนีออกจากบ้านเรือนหรือหาที่พักพิงชั่วคราวเพื่อหลบอันตรายจากไฟป่าในรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกของออสเตรเลีย
เมลเบิร์น 1 ต.ค.- ไฟป่าหลายจุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ในรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ทำให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต้องอพยพออกจากเมือง ขณะที่รัฐทางฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับอากาศร้อนจัด ผู้อาศัยใน 4 เมืองของกิปป์สแลนด์ พื้นที่ชนบทซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติและไร่องุ่นยอดนิยมในรัฐวิกตอเรีย ได้รับแจ้งให้อพยพออกจากพื้นที่โดยทันที ส่วนผู้อาศัยในอีก 3 เมืองและพื้นที่โดยรอบได้รับคำเตือนให้เตรียมพร้อมอพยพ ส่วนที่นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ถัดขึ้นไปจากรัฐวิกตอเรีย อุณหภูมิวันนี้แตะ 35.5 องศาเซลเซียส เป็นวันที่ 1 ตุลาคมที่ร้อนที่สุดนับจากปี 2562 ส่วนวันที่ 1 ตุลาคมที่ทำสถิติร้อนที่สุดคือปี 2547 อุณหภูมิแตะ 38.2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในเดือนตุลาคมของออสเตรเลียมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงสิ้นเดือน เนื่องจากช่วงกลางวันจะยาวนานขึ้นและใกล้เข้าสู่ฤดูร้อนที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย
ออสเตรเลียเตือนบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เตรียมการอพยพหนีน้ำท่วมในวันนี้ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย เตือนอาจเกิดน้ำท่วมใหญ่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่เคยประสบภัยน้ำท่วมรุนแรงไปเมื่อเดือนมีนาคม
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเตรียมพร้อมด้วยการสร้างคันกั้นน้ำและวางกระสอบทรายที่บ้านเรือนของตนในวันนี้ก่อนที่จะมีฝนตกหนักเพี่มเติม แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะกล่าวว่า พายุที่จะพัดเข้าออสเตรเลียจะไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า เขาจะเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งรวมถึงที่นครเมลเบิร์นเมืองเอกของรัฐนี้ด้วย ในชณะที่รัฐ 3 แห่งยังคงเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมที่เป็นผลมาจากฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน
ประชาชนหลายพันคนทั่วพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียได้รับคำขอร้องให้อพยพจากบ้านเรือนในวันนี้ ซึ่งรวมถึงประชาชนในพื้นที่บางเขตทางตะวันตกของนครเมลเบิร์น หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องไม่หยุดเป็นเวลา 2 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง
ประชาชนในเขตพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียได้รับคำเตือนในวันนี้ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง ซึ่งอาจจะทำให้มีลมแรงจัดและฝนตกหนักมาก ในช่วง 2 วันข้างหน้า
ซิดนีย์ 23 ม.ค.- รัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของออสเตรเลียจะให้นักเรียนตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สัปดาห์ละ 2 ครั้งเมื่อเปิดภาคการศึกษาในสัปดาห์หน้า ออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในวันนี้ 58 คน อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 34 คน รัฐวิตอเรีย 14 คน และรัฐควีนส์แลนด์ 10 คน เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ง่ายกำลังระบาดถึงจุดสูงสุดแล้วในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย เพราะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 20,324 คน และ 13,091 คนตามลำดับ ออสเตรเลียมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 2 ล้าน 1 แสน 9 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,100 คน นายโดมินิก เพอร์โรเทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์เผยว่า ในภาคการศึกษาที่จะเปิดในสัปดาห์หน้าหลังจากปิดภาคฤดูร้อน จะขอให้ผู้ปกครองใช้ชุดตรวจหาเชื้อที่เป็นการตรวจแอนติเจนให้ผลรวดเร็วหรือเอทีเค (ATK) ตรวจลูกหลานสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากมีผลเป็นบวกต้องแจ้งโรงเรียนและทางการทราบ ทางการกำลังแจกจ่ายเอทีเคให้โรงเรียนทั้งหมด 3,000 แห่งในสัปดาห์นี้ […]