วอชิงตัน 19 มี.ค.- ผู้สังเกตการณ์คาดว่า ธนาคารกลางของสหรัฐหรือเฟด (Fed) อาจขึ้นดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.25 หรือชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายเป็นวัน 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมนี้
ผู้สังเกตการณ์ชี้ว่า เฟดกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายเดือน เนื่องจากต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดเงินเฟ้อให้ลดลง หรือชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หลังจากตลาดเงินตลาดทุนเกิดความโกลาหลเพราะธนาคารในสหรัฐถูกปิดกิจการไปแล้ว 3 รายในเดือนนี้
ทั้งนี้ก่อนที่ธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์หรือเอสวีบี (SVB) จะถูกทางการสหรัฐสั่งปิดกิจการเมื่อวันที่ 10 มีนาคมตามเวลาสหรัฐ ตรงกับวันที่ 11 มีนาคมตามเวลาไทย และมีผลกระทบติดตามมา เฟดเตรียมจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกสูงสุดร้อยละ 0.50 เนื่องจากข้อมูลต่าง ๆ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้เมื่อต้นปี เจ้าหน้าที่เฟดชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะต้องสูงกว่าร้อยละ 5 จนกว่าเงินเฟ้อจะลดลงสู่ร้อยละ 2 ตามเป้าหมายของเฟด
ด้านธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบี (ECB) มีมติขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.50 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นางคริสทีน ลาการ์ด ประธานอีซีบีเผยว่า อีซีบียังคงมุ่งมั่นเรื่องต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็จะจับตาดูสถานการณ์ของภาคการธนาคารอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย