เลขาฯ ยูเอ็นขอเมียนมาให้กลับมาเดินในเส้นทางประชาธิปไตย

พนมเปญ 12 พ.ย. – นายอันโตนิโอ กูแตเรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ กล่าววันนี้เรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาหันกลับมาเดินในเส้นทางประชาธิปไตยในทันที โดยกล่าวว่า เป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้ง “ฝันร้ายที่ไม่จบสิ้น” ที่กำลังรุมเร้าเมียนมาอยู่ในขณะนี้


นายกูแตเรส กล่าวว่า สถานการณ์ในเมียนมาเป็นเสมือนฝันร้ายที่ไม่มีจุดสิ้นสุดสำหรับประชาชนและเป็นปัญหาที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคงทั่วทั้งภูมิภาค เขาขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เมียนมารับฟังประชาชน ปล่อยตัวนักโทษการเมืองและกลับเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยในทันที ซึ่งจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่เสถียรภาพและสันติภาพ เลขาธิการสหประชาติกล่าวภายหลังได้พบกับผู้นำอาเซียนที่เปิดการประชุมสุดยอดประจำปีที่กรุงพนมเปญ ของกัมพูชาว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญที่แผนสันติภาพที่อาเซียนตกลงไว้กับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา จะได้เริ่มมีผลบังคับใช้ หลังจากที่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เลย เขากล่าวด้วยว่า การทำร้ายพลเมืองโดยไม่เลือกหน้าเป็นเรื่องน่ากลัวและน่าเศร้าใจ อาเซียนบรรลุฉันทามติ 5 ข้อกับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติความโกลาหลในเมียนมา แต่จนถึงขณะนี้บรรดานายทหารระดับสูงที่ปกครองเมียนมาไม่สนใจที่จะนำแผนสันติภาพไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]