fbpx

สลด! ไฟไหม้ผับดังสัตหีบ คลอกดับ 13 ศพ

ชลบุรี 5 ส.ค. – เกิดเหตุสลด! ไฟไหม้ผับดังชลบุรี ในเมืองสัตหีบ คลอกนักท่องราตรีที่พยายามวิ่งหนีตาย 13 ศพ บาดเจ็บอีกเกือบ 40 คน พยานเผยได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง ก่อนเกิดเปลวเพลิงลุกลามไหม้ทั้งตัวอาคารอย่างรวดเร็ว


เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันนี้ (5 ส.ค.) ร.ต.อ.บุญส่ง ยิ่งยง รอง สว.สอบสวน สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ผับ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดที่ผับดัง “MOUNTAIN B” ริมถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานกว่า 20 คัน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนฯ สัตหีบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในตัวอาคารอย่างรุนแรง และนักเที่ยวพากันวิ่งหนีตายออกจากตัวอาคารหลายสิบคน บางรายอยู่ในสภาพถูกไฟคลอกทั้งตัว นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่ต้องรีบช่วยปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สัตหีบ


ส่วนการควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากภายในอาคารมีวัตถุติดไฟได้ง่าย โดยเฉพาะ น้ำยาโฟมซับเสียง จึงทำให้เพลิงลุกลามไปทั่วตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้

เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตกว่า 10 ราย นอนกองรวมกัน บริเวณทางเข้าร้าน และภายในห้องน้ำ บางรายนอนเสียชีวิตอยู่ข้างบูธดีเจ ในสภาพถูกไฟคลอกไหม้เกรียมทั้งตัว ส่วนผู้บาดเจ็บมีประมาณ 20 คน

ล่าสุดมีคลิปที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายไว้ขณะเกิดเหตุ พบนักเที่ยวพยายามวิ่งเบียดแย่งหนีตายออกจากประตูด้านหน้าเพียงประตูเดียว บางคนวิ่งออกมาลักษณะมีไฟติดลุกท่วมตัว ออกมาขอความช่วยเหลือ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีประตูหนีไฟหรือไม่ ขณะที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ มีเพียงพยานให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเปลวเพลิง มีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ข้างบูธดีเจ ก่อนจะเกิดประกายไฟไปติดกับฉนวนโฟมซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย และลุกลามไปทั่วตัวอาคารอย่างรวดเร็ว จนเกิดเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าว


ต่อมาเวลา 03.20 น. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมร่วมสอบปากคำ น.ส.ธัญญาภัทร์ อายุ 26 ปี กัปตันประจำผับดังกล่าว ให้การว่า เห็นไฟเริ่มลุกไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว จะตะโกนบอกการ์ดทางร้านให้ช่วยผลักดันลูกค้าออกหน้าร้าน แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่ดีเจประจำร้าน ระบุว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้ และมีคนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนฯ สัตหีบ ที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทีมแรก เล่าว่า ตอนมาถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณหลังคา เปลวเพลิงพุ่งสู่ชั้นอาคารสูงกว่า 5 เมตร คนเจ็บหลายสิบคนพยายามวิ่งกรูกันออกมา จนต้องรีบลำเลียงผู้คนออกจากที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเกิด เพลิงไหม้ในครั้งนี้ ต้องรอสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตยืนยันว่ามีมากกว่า 9 ศพ ส่วนผู้บาดเจ็บเกือบ 40 คน

ล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น. มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 13 ศพ ส่วนผู้บาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จำนวน 27 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 12 คน และที่โรงพยาบาลพลูตาหลวง กม.10 มีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ 9 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 2 คน

ส่วนร่างผู้เสียชีวิต พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่ลงมากำกับสั่งการด้วยตนเอง มีคำสั่งให้ส่งศพทั้งหมดไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อผ่าชันสูตร รวมถึงตรวจอัตลักษณ์บุคคล ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงพยาบาลพลูตาหลวง กม.10 เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เริ่มมีญาติที่ทราบข่าวเดินทางมาดูศพ ญาติบางรายถึงกับร่ำไห้กอดร่างผู้เสียชีวิตอย่างน่าเวทนา

สำหรับสถานบันเทิงดังกล่าว เป็นผับเปิดใหม่ เพิ่งเปิดได้เพียงเดือนเศษๆ และเป็นแหล่งสถานบันเทิงที่กลุ่มวัยรุ่นสัตหีบกำลังนิยมเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่นักเที่ยวกำลังสนุกกับเสียงเพลง จนไม่มีใครทันตั้งตัว พอเห็นแสงไฟต่างพากันหนีตาย เหยียบกันแบบทุลักทุเล จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งแรกของเมืองสัตหีบด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553