ผลวิจัยชี้โควิดเพิ่มเสี่ยงภาวะลิ่มเลือดอุดตันนาน 6 เดือน

ปารีส 7 เม.ย. – ผลวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์บีเอ็มเจ (British Medical Journal) ซึ่งเป็นวารสารการแพทย์เก่าแก่ที่สุดวารสารหนึ่งของโลก ระบุว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงเป็นเวลานานถึง 6 เดือนหลังติดเชื้อโควิด ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยโควิดที่มีอาการป่วยเล็กน้อย


ผลวิจัยล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์บีเอ็มเจพบว่า ผู้ป่วยโรคโควิดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันเป็นเวลานานถึง 6 เดือนนับตั้งแต่ที่ติดเชื้อ หลังจากที่มีผลวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่า โรคโควิดทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตัน คณะนักวิจัยที่เผยแพร่ผลการวิจัยในครั้งนี้ได้เปรียบเทียบข้อมูลของชาวสวีเดนที่ติดเชื้อโควิดกว่า 1 ล้านคน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563-พฤษภาคม 2564 กับกลุ่มควบคุมกว่า 4 ล้านคนที่ไม่ติดเชื้อโควิด ผลวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโควิดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดเป็นเวลานานถึง 6 เดือน หลังติดเชื้อ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก ซึ่งมักเกิดขึ้นที่ขา เป็นเวลานานถึง 3 เดือนหลังติดเชื้อโควิด

ผลวิจัยดังกล่าวยังชี้ว่า ผู้ป่วยโควิดมีความเสี่ยงต่อภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดสูงถึง 33 เท่า และเสี่ยงต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ติดเชื้อโควิด ส่วนผู้ป่วยโควิดที่มีอาการป่วยรุนแรงจะมีความเสี่ยงสูงกว่าตัวเลขดังกล่าว ขณะที่ผู้ป่วยโควิดที่มีอาการป่วยเล็กน้อยและไม่ได้รักษาตัวในโรงพยาบาลก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดและภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกเช่นกัน


อย่างไรก็ดี ผลวิจัยดังกล่าวระบุว่า ผู้ป่วยโควิดมีโอกาสเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในช่วงที่มีการระบาดระลอกแรกมากกว่าการระบาดระยะหลัง เนื่องจากประสิทธิภาพของวัคซีนโควิดและการรักษาที่ดีขึ้น ทั้งนี้ คณะนักวิจัยยังระบุว่า การค้นพบในครั้งนี้มีนัยยะสำคัญทางด้านนโยบาย และเรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งหาแนวทางการรักษาเพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันในกลุ่มผู้ป่วยโควิด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโควิดที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงเน้นย้ำความสำคัญของการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก