ไทม์ไลน์ สาวเชียงใหม่วัย 29 ติดโควิด-19

เชียงใหม่ 28 พ.ย.-ที่เชียงใหม่วันนี้ผวาหนัก เพราะมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ ล่าสุด ก.สาธารณสุข แถลงข่าวยืนยัน พบหญิงเชียงใหม่ติดโควิดจากเมียนมา แต่คาดเป็นการลักลอบเข้ามา เพราะไม่ผ่านกระบวนการกักโรค เบื้องต้นพบผู้สัมผัสเชื้อ 326 คน เพราะหญิงรายนี้เคยไปเดินห้าง ดูหนัง เที่ยวบาร์โฮสต์ และขึ้นแท็กซี่


เพื่อไม่ให้เกิดความแตกตื่น หรือมีการกระจายข่าวที่คลาดเคลื่อน ช่วงบ่ายวันนี้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์โสภณ เอี่ยมสิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ได้ร่วมกันเปิดเผยผลการสอบสวนโรคของสาวเชียงใหม่รายนี้ โดยระบุว่า สาวรายนี้มีอายุ 29 ปี ไปทำงานที่เมียนมาช่วง 24 ตุลาคม ถึง 23 พฤศจิกายน ไล่เรียงกันตามไทม์ไลน์ ได้ดังนี้

ผู้ป่วยรายนี้ พบว่าตัวเองเริ่มมีอาการป่วยโดยมีไข้ ถ่ายเหลว และจมูกไม่ได้กลิ่น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน แต่ไม่คิดว่าติดโควิด นึกว่าป่วยธรรม จึงกินยาลดไข้เอง


วันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้ป่วยเดินทางกลับมาไทย เวลา 05.00 น. โดยเข้ามาทางอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขึ้นรถตู้สาธารณะมา และช่วง 11.00 น. ได้ขึ้นรถบัสเดินทางมาเชียงใหม่ ก่อนจะเรียก Grab car ไปส่งที่คอนโดฯ เวลา 14.51 น.

ช่วงกลางคืนวันเดียวกัน ได้ชวนเพื่อน 2 คนไปเที่ยวสถานบันเทิง (บาร์โฮสต์) ย่านสันติธรรม และมีการสูบบุหรี่ร่วมกัน จากนั้น 02.00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้แวะไปนอนค้างที่คอนโดฯ ของเพื่อน และดื่มเหล้าร่วมกัน 3 คน

ช่วงเที่ยงของวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้เรียก Grab car ออกจากคอนโดฯ เพื่อน กลับไปที่คอนโดฯ ของตัวเอง และช่วงเวลา 15.30 น. เรียก Grab car จากคอนโดฯ ไปห้างสรรพสินค้า ไปดูหนัง ซื้อของ ก่อนเรียก Grab car โดยกลับถึงคอนโดฯ ประมาณ 20.30 น.


26 พฤศจิกายน ช่วง 15.30 น. ผู้ป่วยเรียก Grab car ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่นและถ่ายเหลว วัดไข้ได้ 36.9 องศาเซลเซียส ซึ่งแพทย์ได้ทำการส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และผลตรวจยืนยันพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีเชื้ออยู่ในระดับปานกลาง-สูง เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้บุคคลอื่น

ซึ่งการสอบสวนโรค และตรวจประวัติการเดินทางทั้งหมดในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบกลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัส 326 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงในพื้นที่เชียงใหม่ 105 คน คือ ที่คอนโดฯผู้ป่วย คอนโดฯเพื่อน ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และยานพาหนะ และตั้งแต่จังหวัดเชียงราย ถึงเชียงใหม่ พบคนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 149 คน รวมถึงผู้สัมผัสอื่นๆ อีก 72 คน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าการสืบหาคนกลุ่มเสี่ยงยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะระยะฟักตัวอยู่ในช่วง 7 วัน

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ป่วยไม่ผ่านกระบวนการกักตัวตามมาตรการควบคุมโรคและจะต้องมีการปิดพื้นที่หรือไม่ จังหวัดและฝ่ายความมั่นคงในจังหวัดเชียงใหม่จะชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเป็นการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ยังยืนยันว่าพื้นที่ชายแดนยังเป็นพื้นที่เสี่ยงของประชาชน และขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมขอร่วมมือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ผู้ป่วยเดินทางตั้งแต่ออกจากเมียนมาถึงเชียงใหม่ ให้ไปตรวจหาเชื้อทันที

และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ห้างฯเซ็นทรัล เฟสติวัลเชียงใหม่ ประกาศปิดห้างเร็วกว่ากำหนด โดยเริ่มปิดตั้งแต่เวลา 16.00 น. พร้อมเร่งระบายลูกค้าออก เพื่อเตรียมบิ๊กคลีนนิ่ง หลังทราบว่าผู้ป่วยเดินทางมาใช้บริการ โดยจะกลับมาเปิดอีกครั้ง 29 พฤศจิกายน ทำให้บรรยากาศภายในห้างฯ รปภ.ต้องปิดประตูทางเข้าทุกจุดห้ามลูกค้าเข้า และแจ้งขอปิดบริการเร็วกว่ากำหนด พร้อมระบายลูกค้าออกมา ส่วนร้านค้าก็เร่งทยอยปิดร้าน และลูกค้าพากันทยอยออกจากอาคาร ทำให้การจราจรขาออกจากห้างติดขัดอย่างหนัก รปภ. และตำรวจจราจร ต้องมาอำนวยความสะดวกในการระบายรถ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น