อุตุฯ ยันพายุ “หลิ่นฟา” ส่งผลไทยแค่ลูกเดียว

สำนักข่าวไทย 12 ต.ค.- กรมอุตุฯ ยืนยันพายุ 3 ลูกเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้มีแค่ “หลิ่นฟา” ส่งผลต่อไทย ส่วนอีก 2 ลูกยังห่างไกล ไม่มีผลถึงไทย วอนฟังข้อมูลอากาศจากกรมอุตุฯ โดยตรงจะดีที่สุด


จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการนำเสนอข่าวว่าในสัปดาห์นี้ประเทศไทย จะมีพายุ 3 ลูก เรียงคิวเข้าไทยกระทบยาวตลอดทั้งสัปดาห์ สมาคมดาราศาสตร์ไทยระบุว่า ได้พยากรณ์สภาพอากาศจากข้อมูลล่าสุดวันที่ 11 ต.ค.63 พบว่าต้องจับตาพายุ 3 ลูก ซึ่งจะพาร่องฝนพาดผ่านประเทศไทยในสัปดาห์ นี้คือ

  1. พายุหลิ่นฟา (Linfa) ส่งผลกระทบในวันที่ 11-13 ต.ค.63
  2. พายุลูกที่ 2 (คาดว่าชื่อ นังกา Nangka) กำลังก่อตัวในทะเลจีนใต้ ส่งผลกระทบในวันที่ 14-15 ต.ค.63
  3. พายุลูกที่ 3 น่าจะแรงที่สุด (คาดว่าชื่อ โซเดล Saudel) กำลังก่อตัวใกล้ฟิลิปปินส์ ส่งผลกระทบในวันที่ 16-19 ต.ค. 63 นั้น

ในเรื่องนี้ ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายบริหาร และโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นข้อมูลที่ไม่ได้ออกมาจากกรมอุตุนิยมวิทยาโดยตรง แต่คงจะไม่ไปพาดพิงบุคคล หรือกลุ่มที่ออกมาให้ข้อมูล ซึ่งน่าจะเกิดจากการไปดูแบบจำลองโมเดลพายุที่เกิดขึ้นจริงแล้วก็นำไปพูด ไปให้ข้อมูล จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับสังคม


ในข้อเท็จจริงทั้ง 3 ลูก แม้จะเกิดขึ้นจริง แต่ทางการตรวจสอบเส้นทางพายุของกรมอุตุฯ ยังไม่ได้แสดงถึงผลกระทบต่อประเทศไทยตามที่ถูกนำเสนอไป ลูกแรกที่กรมอุตุฯ ได้ประกาศเตือน คือ พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “หลิ่นฟา” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกวางงาย ประเทศเวียดนามแล้ว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ได้อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่ สปป ลาว ในเช้ามืดวันนี้ (12 ต.ค.) โดยอ่อนกำลังลงอีก กลายเป็นอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) เนื่องจากประเทศไทยมีมวลความเย็นจากประเทศจีนปกคลุมอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้หลิ่นฟาอ่อนกำลังลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีแรงทำให้ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เป็นพื้นที่กว้าง โดยจะมีผลกระทบถึงวันที่ 12-13 ต.ค.นี้ โดยเฉพาะด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

ส่วนอีกลูกที่เกิดขึ้นแล้วและมีการแจ้งเตือน คือ พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในระยะต่อไป ขณะนี้พายุลูกนี้อยู่ในบริเวณทะเลจีนใต้ ใกล้กับเกาะฟิลิปปินส์ยังคงเป็นพายุดีเปรสชัน พายุลูกนี้คาดว่าจะทวีความแรงเป็นพายุโซนร้อน ในวันนี้(12 ต.ค.)

ส่วนการเคลื่อนที่ของพายุลูกนี้ไปทางทิศตะวันตกมุ่งหน้าไปยังเกาะไหหลำ ในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ และยังไม่มีชื่อตามที่ข่าวได้ถูกนำเสนอ พายุลูกนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อไทยในช่วง 1-2 วันนี้อย่างแน่นอน


ส่วนลูกที่ 3 ตามที่เป็นข่าวนั้น จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าก่อตัวเป็นพายุ ตอนนี้เป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำ ด้านตะวันออกไกลจากฟิลิปปินส์พอสมควร ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่าจะกลายเป็นพายุได้หรือไม่ ยืนยันลูกที่ 3 ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน รวมทั้งยังไม่มีการตั้งชื่อด้วย

ส่วนชื่อพายุที่มีการตั้งชื่อให้เสร็จสรรพนั้น ยืนยันว่าทั้ง 2 ลูกยังไม่มีการตั้งชื่อ โดยชื่อที่ถูกนำมาตั้งสันนิษฐานว่าจะนำมาจากหน้าเว็บไซต์กรมอุตุฯ แต่หน่วยงานที่จะตั้งชื่อพายุจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านพายุ จากประเทศญี่ปุ่น เราไม่สามารถไปตั้งชื่อเองแบบที่เป็นข่าวได้ เพราะมีกฎเกณฑ์การตั้งชื่อพายุที่ทั่วโลกปฏิบัติกันอยู่

สำหรับข่าวที่ถูกนำเสนอไป อยากจะแจ้งผู้รับข่าวสารว่ายังไม่ใช่ข้อมูลจริง และยังอยู่ห่างไกล ไม่มีผลกระทบกับไทย สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในช่วง 1-2 วันนี้ คืออิทธิพลของ “หลิ่นฟา” เพียงลูกเดียวเท่านั้น โดยข้อมูลการแจ้งเตือน โฆษกกรมอุตุฯ ยืนยันว่า กรมอุตุฯ สามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนเฝ้าระวังได้อย่างทันท่วงที ข้อมูลทั้งหมดเรื่องของพายุ หรือสภาพอากาศ อยากจะขอให้ฟังจากกรุมอุตุนิยมวิทยาโดยตรงจะดีที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]