สมุทรปราการ 10 เม.ย.-นายกฯ แถลงผลงาน 2 เดือน โชว์ปราบยาเสพติด ตามมาตรการ “Seal Stop Safe” เปิดเตาเผายานรกกว่า 27 ตัน ขอให้มั่นใจ ไม่มีวนกลับเข้าสังคม พอใจตัวเลขผู้เข้าบำบัดถึง 3 แสนคน ย้ำทุกฝ่ายบูรณาการแก้ปัญหา ก่อนตรวจจราจรบางนา-ตราด, มิตรภาพ, พหลโยธิน, ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ก่อนประชาชนออกเดินทาง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแถลงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน 76 สถานีตำรวจ ใน 14 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ในห้วง 2 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 31 มี.ค.2568 และการเผาทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี 2568 (ครั้งที่ 2) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลา โหม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายศุภมิตร ชิณ ศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน
นายกรัฐมนตรี ชมวีดิทัศน์ สรุปผลการดำเนินงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ที่สามารถจับกุมยาบ้า 76,556,800 เม็ด เพิ่มจากปี 2567 กว่า 20 ล้านเม็ด คิดเป็นร้อยละ 32 , จับกุมไอซ์ 7,527 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2567 กว่า 7 พันกิโลกรัม เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1,700 และกล่าวขอบคุณหน่วยงานภาคีในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การแก้ปัญหายาเสพติดมีความคืบหน้าเพราะความร่วมมืออย่าง บูรณาการ เรื่องนี้ไม่สามารถทำโดยภาคส่วนใดหรือหน่วยงานหน่วยหนึ่งได้ ก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นนายกฯ ได้ลงพื้นที่หาเสียงพบว่าเรื่องที่พี่น้องบ่นและเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสในทุกพื้นที่ คือ เรื่องของยาเสพติดและพูดตลอดขอให้รัฐบาลช่วยปราบยาเสพติดเพราะเมื่อมี 1 คนในบ้านติดยยา จะแพร่ในชุมชนอย่างรวดเร็วและส่งผลเสียต่อสถาบันครอบครัว ชุมชนไปจนถึงจังหวัด และระดับประเทศ ดังนั้นทุกคน ทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะช่วยให้ยาเสพติดน้อยลงจนหมดลงไปได้
ตอนนี้ประเทศไทยไม่ใช่เป็นแหล่งผลิตแต่เป็นทางผ่าน ฉะนั้นเราต้องคอยสกัดเพื่อไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบเข้ามาในประเทศ โดยกองทัพทำในเรื่องของซีลชายแดนไว้อยู่แล้ว และได้ผลดีมาก เมื่อประชาชนเห็นเครื่องแบบไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร มีความอุ่นใจและสบายใจที่เราเข้ามาปราบปรามอย่างจริงจัง จึงต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยให้ยาเสพติดหมดไป สิ่งที่เราจะทำต่อคือเรื่องการบำบัด ตรงนี้สำคัญเห็นหลายพื้นที่ได้บำบัดไปกว่า 3 แสนคน ถือว่าเยอะมาก และคิดว่าจะช่วยลดการกลับเข้าสู่วงจรยาเสพติดได้อย่างดี จึงอยากเน้นย้ำตรงนี้และให้คิดเสมอว่าผู้ที่เสพยา คือ ผู้ป่วยที่ไม่สบาย เราต้องรักษาให้เขากลับเข้าสู่สังคมได้ต้องต้อนรับกลับเข้าสู่สังคมให้เป็นกำลังสำคัญและเป็นศักยภาพที่ดีของประเทศต่อไปในอนาคต
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาเราได้แก้ไขปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม โดยใช้มาตรการ 3 ตัด ตัดน้ำมันตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต รวมถึงปฏิบัติการซีล สต็อป เซฟ ซึ่งได้ผลมากและเป็นกำลังใน 51 อำเภอชายแดน และ 76 สถานีตำรวจใน 14 จังหวัด นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ที่จะปราบอย่างเด็ดขาด และจะติดตามผลทุก 2 เดือน จนมั่นใจแล้วว่าหมดจริง ไม่มีการลักลอบนำเข้ามา ส่วนการเผาทำลายยาเสพติดที่จับกุมและยึดไว้ของทางป.ป.ส. เพื่อแสดงให้เห็นว่าให้ประชาชนสบายใจว่ายาเสพติดที่จับมา ได้นำมาเผาจริงจะและไม่ถูกวนกลับเข้าไปในสังคม หรือวนเข้ามาถึงเด็กและเยาวชน ทุกภาคที่ดำเนินการตรงนี้ ทำให้ประชาชนสามารถไว้วางใจได้ว่าเข้าสู่กระบวนการเผาจริง เผาให้เห็นกับตา ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเราจับแล้วมีกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างบูรณาการ ถ้ามีปัญหาหรือต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรเพิ่มเติมให้พูดคุยกัน เราเต็มที่และยินดีที่เรื่องนี้เพราะจะเป็นเรื่องเครื่องมือเครื่องใช้ในการดูแลเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่ารัฐบาลมีเจตนาที่แน่วแน่และของทุกภาคส่วนเห็นว่ายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ และเราทุกคนพร้อมที่จะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทยของเรา
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ชมบูธนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด บริเวณลานด้านข้างตึกสำนักงานใหญ่ โดยชมการทดสอบใช้น้ำยาเคมีในการ สุ่มตรวจสอบยาเสพติด ยาบ้ายาไอซ์ เฮโรอีน และคีตามีน ซึ่งยาเสพติดแต่ละชนิดต้องใช้น้ำยาเคมีที่แตกต่างกัน และนายกฯ ได้สอบถามวิธีการเสพของแต่ละชนิดด้วย และเวลาจับรู้ได้อย่างไรว่าเป็นยาเสพติดประเภทไหน โดยของกลางที่จับกุมได้ 80 คดี น้ำหนักยาเสพติดของกลางและสิ่งห่อหุ้ม รวม 27,816.69 กิโลกรัม จากนั้นนายกฯ ได้สวมหมวกนิรภัย พร้อมสวมแมส เพื่อชมไปดูการเผาทำลายยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเป็นประธานแถลงข่าวการดำเนินงานปฏิบัติการสกัดการและปราบปรามยาเสพติดฯ น.ส.แพทองธาร ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากนิคมบางปูฯ บินตรวจสภาพการจราจรทางอากาศ ถนนบางนา-ตราด ต่อเนื่องไปที่ถนนมิตรภาพ เพื่อดูเส้นทางจราจรถนนมิตรภาพ ที่ประชาชนจะเดินทางไปภาคอีสาน และถนนพหลโยธิน ที่เป็นเส้นทางเดินทางขึ้นภาคเหนือ และวนกลับดูสภาพจราจรฝั่งตะวันตก เส้นทางตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี เชื่อมต่อถนนพระราม 2 ดูการจราจรเดินทางลงภาคใต้ ประมาณ 45 นาที ก่อนเดินทางตรวจติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 และการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 บริเวณโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) กิโลเมตร ที่ 20 อำเภอ เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร.-314.-สำนักข่าวไทย