ทำเนียบ 8 พ.ค.-นายกฯ หารือผู้แทนพิเศษฯ ฝรั่งเศส เดินหน้าความร่วมมือไทย-ฝรั่งเศส ผลักดันเศรษฐกิจ ร่วมพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง-พลังงาน-โลจิสติกส์ ชื่นชม ศักยภาพไทยเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานในเอเชีย
นายฟรองซัวส์ กอร์แบง (Mr. François Corbin) ผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส ด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศอาเซียน และรองประธานสภานายจ้างฝรั่งเศสในต่างประเทศ (MEDEF International: MEDEFi) เข้าพบหารือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการยกระดับความร่วมมือกับฝรั่งเศสในหลากหลายสาขา โดยไทยพร้อมให้การสนับสนุนภาคเอกชนของฝรั่งเศสในการเข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศูนย์ข้อมูล (Data Centre) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมอนาคตที่รัฐบาลกำลังเร่งส่งเสริม อีกทั้งในปัจจุบัน ไทยยังมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก อาทิ Google, Microsoft และ TikTok แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยจากนักลงทุนนานาชาติ โดยไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย พร้อมเน้นย้ำถึงโอกาสในการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ในด้านวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศบนเวทีโลก
นายฟรองซัวส์ กอร์แบง ผู้แทนพิเศษฯ กล่าวชื่นชมบทบาทของประเทศไทยในเวทีเศรษฐกิจโลก พร้อมเน้นย้ำว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรในประเทศและตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสมีความตั้งใจจริงในการส่งเสริมความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านพลังงาน โลจิสติกส์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งชื่นชมศักยภาพของไทยในการเป็นจุดศูนย์กลางด้านพลังงานในเอเชีย และยินดีเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศร่วมพัฒนาโครงการสำคัญในอนาคต
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุน เห็นพ้องถึงบทบาทของภาคเอกชนทั้งสองประเทศในการร่วมพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง โลจิสติกส์ และพลังงาน โดยเฉพาะการผลักดันความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ซึ่งไทยมุ่งเน้นความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจน ซึ่งฝรั่งเศสยินดีสานต่อความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง ด้านพลังงานสะอาด อาทิ พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน และพลังงานนิวเคลียร์ ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง และพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับไทย รวมไปถึงการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid: APG) ซึ่งฝรั่งเศสให้ความสนใจและพร้อมเป็นพันธมิตรเพื่อการพัฒนาของอาเซียน
ส่วนด้านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ของไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยร่วมกับภาคีต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการยกระดับบทบาทของไทยบนเวทีโลก ขณะที่ผู้แทนพิเศษฯ เห็นพ้องและเน้นย้ำว่า ทั้งไทยและฝรั่งเศสต่างมีค่านิยมร่วมกันด้านมนุษยธรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ช่วงท้าย ผู้แทนพิเศษฯ ได้กล่าวชื่นชมถึงบทบาทของไทยในอาเซียนและแสดงความพร้อมอย่างเต็มที่ในการร่วมมือกับรัฐบาลไทยทั้งในระดับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขยายความร่วมมือในทุกด้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต.-316.-สำนักข่าวไทย