รวบ “อาฟู่” ล่ามบอสใหญ่คอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อสูญเงิน 16 ล้าน

กทม. 14 มิ.ย.-ผบ.ตร.ส่ง PCT 5 แกะรอยรวบ “อาฟู่” ล่ามบอสใหญ่คอลเซ็นเตอร์ จุดเกาะกง กัมพูชา หลอกผู้เสียหายรวมสูญเงิน 16 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์  ทองแพ, พ.ต.อ.สามารถ พันธ์ล้วน, พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี, พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ จงเจริญ, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5, ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)


นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสุรชัย หรืออาฟู่ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงินฯ” โดยจับกุมได้บริเวณหน้าหอพักคนงาน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

เบื้องต้นนายสุรชัย ให้การภาคเสธว่าประมาณปี 64 นายสุรชัย พร้อมกับนายสุรจิต (น้องชาย) ได้สมัครงานผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อไปเป็นล่ามแปลภาษา จีน-ไทย ที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 30,000-40,000 บาท เมื่อเดินทางไปถึงกัมพูชาปรากฏว่า ตนเองถูกพาไปทำงานที่ “เกาะกง” แทน โดยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนจากหัวหน้าชาวจีน ซึ่งไม่ทราบชื่อจริง แต่พนักงานที่นั่นจะเรียกกันว่า “หยู่เกอ” โดยตนจะทำหน้าที่ล่ามแปล คำพูดของนายหยู่เกอเป็นภาษาไทยให้กับพนักงานที่ทำงานที่นั่น โดยทราบว่าที่คนไทยไปทำงานนั้น เป็นงานในลักษณะคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล คริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งนาย “หยู่เกอ” เป็นคนสร้างแอปพลิเคชั่นปลอมนี้ขึ้น หลังจากทำงานได้ 6 เดือนตนได้หลบหนีกลับไทย และได้สร้างครอบครัวเปิดกิจการร้านเหล้า


จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า แผนประทุษกรรมของแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้จะเป็นเริ่มเปิดปฏิบัติการโดยจะใช้โปรแกรมสร้างแพลตฟอร์มปลอมชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” เพื่อหลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโตฯ จากนั้น นาย “หยู่เกอ” บอสใหญ่ชาวจีนจะให้นายสุรชัย ผู้ถูกจับ และนายสุรจิต ทำหน้าที่ล่ามในการแปล ถอดคำพูดและวิธีการสอนให้พนักงานที่มาทำงานในการสร้างโปรไฟล์ หนุ่มหล่อ สาวสวย หน้าตาดี ทางแอปพลิเคชั่น ผ่านทางกูเกิลหรือโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้โดยเฉพาะ เช่น twitter จำนวน 10-40 บัญชี และ  Instagram จำนวน 1 บัญชี และ facebook จำนวน 1 บัญชี

โดยเฉพาะการสมัครแอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์ (twitter) จะมีระบบโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้สุ่มเข้ามาพูดคุยและทักทายทำความรู้จัก ตีสนิทติดตามเหยื่อก่อน เมื่อเหยื่อรับเป็นเพื่อนและติดตามคนร้ายกลับมา จะมีข้อความที่ตั้งไว้ตอบกลับอัตโนมัติในลักษณะคำทักทายเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่องจนเหยื่อเริ่มพูดคุย มีการสนทนาโต้ตอบ กลุ่มมิจฉาชีพจะเริ่มใช้จิตวิทยาและประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบอสใหญ่ ในการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ อายุ งาน ประเทศ เบอร์โทร วอทแอพ (WhatsApp) หากเหยื่อรายใดเริ่มมีความคุ้นเคยจะถามถึงสภาพคล่องทางการเงิน รายรับ-รายจ่ายของเหยื่อ จนกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้ สามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เหยื่อมีรายได้และมีความสามารถในการลงทุน คนร้ายจะชักชวนเหยื่อร่วมลงทุน โดยให้เหยื่อดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม bitkub, M.omxmax, Binace และ Letraders พร้อมทั้งสอนวิธีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลคริปโตเป็น USDT, LTC, GLOE, BTC, ETH, WPE แนะนำเชิญชวนให้ลงทุนโอนเงินดอลล่าร์และจะให้เห็นว่าลงทุนแล้วได้กำไรและถอนเงินได้จริง เปลี่ยนให้เป็นเงิน USDT

พอเหยื่อลงทุนแล้ว ก็จะให้โอนเงิน USDT เข้าไปใน แพลตฟอร์ม ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” ที่สร้างขึ้นปลอม เพื่อเป็นการเลี้ยงเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม นาย “หยู่เกอ” จะทำการหลอกลวงโดยสร้างกราฟปลอมแสดงกราฟขาขึ้น ให้เหยื่อดูเพื่อแสดงยอดเงินกำไรโชว์ให้เหยื่อเพื่อให้เหยื่อลงทุนเพิ่ม หากเหยื่อจะถอนเงินที่ได้จากผลกำไร ทางแก็งมิจฉาชีพนี้จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าภาษี หากไม่ชำระภายในกำหนดก็ไม่สามารถจะถอนเงินดังกล่าวได้ จึงเป็นการหลอกผู้เสียหายซ้ำไปซ้ำมา จนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก


พล.ต.ต.ธีรเดช หัวหน้าชุด PCT 5 กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งตรงให้ติดตามจับกุม อาฟู่ มือขวาบอสใหญ่ชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) จุดเกาะกง กัมพูชา ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาก เพราะเป็นคนสอนเทคนิคการหลอก คอลเซ็นเตอร์ แถว 1-แถว 3 โทรมาหลอกคนไทย แม้มีปัจจัยด้านต่างๆ แต่เราเกาะติดเฝ้าติดตามคนร้ายมาโดยตลอด เพื่อเป็นการตัดรากถอนโคนองค์กรอาชญากรรมแก๊งนี้ให้สิ้นซาก ป้องกันมิให้ประชาชนคนไทยตกเป็นเหยื่อตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดเดินหน้าปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจังต่อไป ขอเตือนประชาชนที่คิดจะไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านนั้น ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่า อาชีพหรือลักษณะงานที่จะไปทำนั้นเป็นในลักษณะแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ และขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนคนไทยอย่าได้หลงเชื่อกลวิธีของแก๊งคอลเซนเตอร์ (สแกมเมอร์) ที่ชักชวนลงทุน หรือหากท่านมีเบาะแสสามารถติดต่อไปยัง สายด่วน 1441 ตำรวจไซเบอร์ หรือ ศูนย์ ศปอส.ตร. 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หากมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

ตร.-ผอ.รพ.แจงวิสามัญผู้ป่วยคลั่ง ทำตามยุทธวิธี

ตำรวจ-รพ. แถลงเหตุวิสามัญผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ คลั่งกลาง รพ.สุรินทร์ ตำรวจแจงทำตามยุทธวิธี แต่ผู้ป่วยมีอาการคลั่ง ไม่สงบ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อระงับเหตุ ด้าน รพ. เผยเหตุดังกล่าวเกือบเสียคนไข้อีกคน ส่วนกล้องวงจรปิด พบว่าใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยน

เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกสำเร็จรูป อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จนท.ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

ตรวจคัดกรอง 151 คนไทย หลังเมียนมาปล่อยตัว

ตรวจคัดกรอง 151 คนไทย หลังทางการเมียนมาปล่อยตัว และกลับถึงไทยช่วงค่ำวานนี้ หากไม่เกี่ยวข้องค้ามนุษย์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงจะปล่อยกลับภูมิลำเนา