SOM ฉันทามติเป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG

ศูนย์การประชุมสิริกิติ์ 16 พ.ย. -เวทีประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ฉันทามติเป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ย้ำเวทีเอเปคสร้างความเชื่อมั่นไม่แพ้เวทีจี 20 และผู้นำอาเซียน


นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค พร้อมด้วยนางรีเบคกา สตา มาเรีย ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปค แถลงร่วมกันว่า เป็นที่น่ายินดีว่าที่ประชุม 21 เขตเศรษฐกิจมีเสียงฉันทามติขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ  FTAAP หวังให้เป็นเขตเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ และการเชื่อมโยง การค้า การลงทุนของกลุ่มเอเปค หลังจากที่ชะลอไปนาน จึงต้องการฟื้นการหารือขึ้นมาใหม่หลังโดนแช่เย็นมานานกว่า 10 ปี เพื่อใช้ฟื้นเศรษฐกิจของเอเปคหลังโควิด-19

“ยอมรับว่าการเจรจา FTAAP ไม่ใช่การผูกมัดข้อตกลงให้ประเทศสมาชิกต้องลดภาษีหรือสร้างอุปสรรค กีดกันทางการค้าเหมือนกับเขต RCEP หรือ CPTPP แต่จะทยอยเปิดเสรีการค้าตามความพร้อมของแต่ละประเทศ เพื่อนำไปสู่การหารือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อเสนอต่อเวทีระดับรัฐมนตรีและเวทีผู้นำเอเปค เป้าหมายการหารือเขตการค้าเสรีกลุ่มเอเปค หรือ  FTAAP นับเป็นความร่วมมือพหุภาคีที่สำคัญของโลก ซึ่งมูลค่า GDP รวมกัน  61% ของทั้งโลก การค้ามีสัดส่วนร้อยละ 48 ของการค้าโลก ทำให้ไทยได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจหลายมิติ โดยเฉพาะการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของประชากรเอเปค” นายธานี กล่าว


นายธานี กล่าวว่า สำหรับการประชุมเอเปคครั้งนี้ได้มีการรวมกลุ่มชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่าง ๆ เพื่อแสดงความเห็น ยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติของการประชุมระดับเวทีนานาชาติ มีหลายฝ่ายแสดงออกทั้งคัดค้านและมีข้อเสนอแนะในรูปแบบต่าง ๆ แต่รัฐบาลสามารถที่จะควบคุมดูแลให้อยู่ในสถานการณ์สงบ อีกทั้งยอมรับว่าการประชุมของกลุ่มจี 20 เอเปค และผู้นำอาเซียน คงไม่สามารถเปรียบเทียบจำนวนผู้นำในการเข้าร่วมประชุมแต่ละเวทีได้ ยอมรับว่าผู้นำทุกประเทศให้ความสำคัญส่งผู้นำเข้าร่วมประชุมในการร่วมขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจทุกมิติ ลดอุปสรรคทางการค้า และส่งเสริมอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุนให้ง่ายขึ้น

“ที่ประชุมมีฉันทามติร่วมกันในการร่างเอกสารเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG เพื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคและระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค สำหรับร่างเอกสารเป้าหมายกรุงเทพฯ 4 เป้าหมายประกอบด้วย 1. การจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ 2. การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน 3. การบริหารจัดการทรัพยากรที่ยั่งยืน และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ 4. การลดและบริหารจัดการของเสีย นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแนวทางขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพฯ ด้วยการวางกรอบ ระเบียบ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การเสริมสร้างศักยภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วน” นายธานี กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง