นายกฯ เผยหารือผู้นำในการประชุมเอเปคเป็นประโยชน์กับไทย

เปรู 17 พ.ย.-นายกฯ ยืนยันการหารือแลกเปลี่ยนผู้นำในการประชุมเอเปคเป็นประโยชน์กับประชาชน-ประเทศไทย ผลักดันการเปลี่ยนผ่านเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG มั่นใจเป็นใบเบิกทางให้นานาชาติเห็นตัวตนไทยและเพิ่มโอกาสการค้าการลงทุนมากขึ้น

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง ณ โรงแรมสวิสโซเทล ลิมา สาธารณรัฐเปรู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมในการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ว่า สาธารณรัฐเปรูเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคเป็นครั้งที่ 3 แล้ว อย่างไรก็ดี ด้วยเอเปคเป็นการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค จึงถูกกำชับว่าห้ามเรียกว่าประเทศ แต่ให้เรียกว่าเขตเศรษฐกิจแทน เพื่อให้สมาชิกในเขตเศรษฐกิจทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่แบ่งแยกประเทศ


ในส่วนของประเทศไทยเองก็เคยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคปี 2565 ด้วยเช่นกัน ภายใต้แนวคิด BCG Economy หรือ Bio-circular -Green ecocomy ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ก็ยังใช้แนวคิดเดิม โดยมีหัวข้อหลักๆ อาทิ การเสริมสร้างพลัง การมีส่วนร่วม และการเติบโตที่ยั่งยืน (Empower Include Grow) เพื่อให้สมาชิกเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

พร้อมเปิดเผยว่า การมาเยือนในครั้งนี้ได้มีการขับเคลื่อนการลงทุน โดยผลักดันให้เกิดการค้าเสรี หรือ FTA ขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ได้ส่งเสริมในเรื่องของนวัตกรรม ดิจิทัล และการเติบโตที่ยั่งยืน ทั้งหมดจึงตรงกับนโยบายที่ประเทศไทยกำลังผลักดันอยู่พอดี เพราะขณะนี้ทั่วโลกส่วนใหญ่เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยเองก็เช่นกัน


ส่วนเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทุกประเทศได้พูดคุยกันถึง Sustainability โดยลงรายละเอียด ว่าจะพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนได้อย่างไร รวมถึงสอบถามอุปสรรคและปัญหาทางภัยธรรมชาติที่เผชิญว่าจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรได้บ้าง และจะนำเทคโนโลยี ที่แต่ละประเทศมีไม่เหมือนกันมาสนับสนุนได้อย่างไร

สำหรับการประชุมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders ) ได้คุยกับผู้นำแต่ละเขตเศรษฐกิจและนักธุรกิจในด้านต่างๆ อาทิ พลังงาน รถยนต์ไฟฟ้า และAI ซึ่งหลายบริษัทได้สอบถามว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดไหน จึงตอบไปว่า ตอนนี้ประเทศไทยกำลังรับเรื่องการลงทุน เพื่อสร้างเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาในประเทศ โดยเน้นไปที่เทคโลโลยี AI , Semiconductor และ Data center วันนั้นจึงได้มีโอกาสพูดคุยกับนักธุรกิจด้วยกัน 3 บริษัท ประกอบด้วย Tiktok , Microsoft และ Google จึงเสมือนเป็นการต่อยอดให้มาลงทุนเพิ่มเติมกับประเทศไทย และประกาศว่าประเทศไทยพร้อมจะสนับสนุนในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจว่าหากมาลงทุนที่ไทย รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน เพราะแท้จริงแล้ว 3 บริษัทดังกล่าวก็มีการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

ฉะนั้นหากถามว่าประเทศจะได้อะไรจากการลงทุนในครั้งนี้ แน่นอนว่าการลงทุนอย่าง Data center จะทำให้คนไทยเกิดอาชีพใหม่ๆ และเกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ GDP ของไทยเติบโตไม่เต็มศักยภาพ ดังนั้นการหาเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาในประเทศ เพื่อให้คนมีรายได้และมีอาชีพจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยไทยจะต้องพัฒนาทุกด้านไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงิน 10,000 บาท รายได้ใหม่ ซอฟต์พาวเวอร์ การลงทุน และการหาเม็ดเงิน ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้เกิดภาพรวมและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ


ขณะที่ การเข้าร่วมกรอบการประชุมต่างๆ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไทยได้แสดงจุดยืนในเรื่องของนโยบายเชิงรุก ว่าการศึกษาในไทยรัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่หากติดขัดในเรื่องของภาษา เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน โดยขอให้แต่ละบริษัทมีการฝึกอบรมในรูปแบบของภาษาไทยด้วย เพื่อพัฒนาบุคลากรควบคู่กันไปขณะเดียวกัน ตนก็ได้สร้างความมั่นใจไปว่าไทยพร้อมแล้วที่จะมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจ โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านเกษตรกรรมอัจฉริยะ หรือ Smart farming อย่างแท้จริง

ส่วนการพบหารือทวิภาคี นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้พบกับ นางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู ซึ่งดีมากๆ เพราะเปรูถือเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปคปี 2024 นี้ อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงเหมือนกันด้วย จึงได้มีโอกาสทักทายและพูดคุยกัน พร้อมยืนยันไปด้วยว่า ไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกันต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องการเจรจาการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทย-เปรู เนื่องจากเปรูเพิ่งเปิดท่าเรือชางใคได้ไม่นานจึงถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งสินค้าเกษตรของไทยได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะเชื่อมโยงกับโครงการแลนด์บริดจ์ของไทยได้อีกด้วย

ส่วนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เปรูได้มีการนำขนอัลปากามาทำเป็นเสื้อ ขณะที่ ไทยมีผ้าไหม จึงต้องหาทางว่าจะทำร่วมกันอย่างไรดี เพื่อให้เกิดเนื้อผ้าพิเศษขึ้นมา ฉะนั้นเรื่องนี้ทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติจะนำประเด็นนี้ไปพิจารณากันต่อ เพื่อนำซอฟต์พาวเวอร์ของทั้งสองประเทศมารวมกัน ให้คนสามารถเข้าถึง เข้าใจได้ง่าย และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ สำหรับการหารือทวิภาคีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยเรื่องที่จะร่วมมือกัน เพราะในปีหน้าไทย-จีน จะมีงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์จีน-ไทย ครบรอบ 50 ปี จึงได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาติ หรือ พระเขี้ยวแก้ว มาประดิษฐานไว้ที่ประเทศไทย เพื่อให้พี่น้องคนไทยสักการะบูชา

นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องที่จีนจะมอบแพนด้ายักษ์มาประเทศไทยอีกครั้ง โอกาสนี้ไทยจึงได้กล่าวชื่นชมประเทศจีนเรื่องลดความยากจนในประเทศว่าทำได้สำเร็จดีมากๆ และพร้อมที่จะเรียนรู้โมเดลของจีนต่อไป หากมีอะไรก็สามารถแนะนำมาได้ โดยไทยได้ย้ำถึงความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะต้องขอความร่วมมือซึ่งกันและกันด้วย ตนจึงได้เปิดโอกาสและขอให้ภาคเอกชนของจีนเข้ามาลงทุนที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจีนยืนยันว่าจะส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ Online scam ระหว่างกัน และจะสนับสนุนไทยเข้าร่วม BRICS

ก่อนกล่าวทิ้งท้ายถึงการเข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ ว่า ได้มีโอกาสเข้าร่วม 2 ครั้ง คือ งานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner และ งานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค จึงได้สร้างความมั่นใจและขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนมาลงทุนที่ประเทศไทย ตลอดทั้งสามวันจึงถือว่าได้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก เพราะได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้นำในแต่ละเขตเศรษฐกิจ ซึ่งพอได้คุยกันอย่างเป็นการส่วนตัว ก็ได้คุยกันถึงเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกัน เราก็ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีโลกด้วยว่า พร้อมแล้วสำหรับการลงทุน และความร่วมมือ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจทั้งของเราและเภื่อนสมาชิก ด้วยเหตุนี้ จึงมั่นใจว่าการได้พูดคุยกันแบบนี้จะทำให้เราสามารถเดินหน้าความร่วมมือกับประเทศต่างๆและหาโอกาสให้กับประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยในการเจรจาครั้งต่อไปเขาก็จะได้รู้ว่าเรามีตัวตนและมีศักยภาพ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

งานบอล “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ล้อการเมืองจัดเต็ม

ฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 เริ่มแล้ว ล้อการเมืองจัดเต็ม หลังอัดอั้นมา 5 ปี เหน็บ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี” หุ่น “พิธา-ทักษิณ” วิวาห์ล่ม ปล่อยประชาชนลอยแพ จำลอง “แก้รัฐธรรมนูญ” ถามแก้ชาติไหน บอกกูที

ไฟไหม้บ้านอาจารย์ ม.ดัง ภรรยาวัย 69 ดับสลด

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้บ้านอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ภรรยาวัย 69 ปี หนีไม่ทัน ดับสลด คาดต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าระเบิด

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ยโสธร

ระทึก! แผงเหล็กเวทีถล่ม ขณะ “ซาบีดา” เปิดงานที่ จ.ยโสธร เจ้าตัวบาดเจ็บเล็กน้อย โชว์สปิริตเปิดงานต่อ ด้าน สส.ยโสธร ภท. เจ็บหนัก กระดูกสันหลังแตก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลงพื้นที่ทะเลน้อย รับปากแก้ปัญหาตื้นเขิน-กำจัดวัชพืช

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ทะเลน้อย พัทลุง ป้อนหญ้าควายทะเล รับปากแก้ปัญหาตื้นเขิน-กำจัดวัชพืช ลั่นทำให้หมดทุกพื้นที่ไม่มีเลือก ปลื้มชาวบ้านอวยผลงาน “ทักษิณ” สร้างถนน-สะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา อ้อน แหลงใต้ไม่เป็นยังรักอยู่ไหม ดีใจได้ฟังปัญหาจากปาก ปชช. สัญญาจะกลับไปทำการบ้านเพิ่ม บอกถ้าคนไทยรวย รัฐบาลก็เข้มแข็ง ขณะที่ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ ตะโกน “นายกฯ สู้สู้”

หุ้นAOT

AOT แจ้ง ตลท.ข้อมูล คิงเพาเวอร์ แต่หุ้นยังดิ่งแรง

AOT ชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องคิงเพาเวอร์ แต่หุ้นยังดิ่งแรง ยืนยันไม่ได้ทำการแก้ไขสัญญาสัมปทาน โดยราคาหุ้น AOT ร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุด 41.50 บาทในช่วงเช้าวันนี้

ครม.สัญจรสงขลา

“แพทองธาร” นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ก่อนประชุม ครม.สัญจร

“แพทองธาร” นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สงขลา ติดตามการบริหารจัดการน้ำ รับฟังปัญหาการผลิตและส่งออกอาหารทะเล พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวเมืองเก่า ก่อนประชุม ครม.สัญจร พรุ่งนี้