เนปยีดอ 2 เม.ย. – ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา แม้จะผ่านมา 4 วันแล้ว จนกลิ่นศพเริ่มคละคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลัก 3,000 ราย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยเครื่องจักรกลหนักยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารจำนวนมากในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งพังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว แต่เนื่องจากผ่านพ้นมาแล้ว 4 วันและล่วงเข้าสู่วันที่ 5 ในวันนี้ ทำให้โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตอยู่ใต้ซากเหลือน้อยลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายคนบอกว่า พยายามค้นหาตลอดทั้งวัน มีแต่เจอศพผู้เสียชีวิต ยิ่งขุดค้นรื้อซากปรักหักพังก็ยิ่งได้กลิ่นศพมากขึ้น เชื่อว่ายังมีศพติดอยู่ใต้ซากอีกมาก แต่แทบไม่พบสัญญาณชีพของผู้รอดชีวิตเลย
อย่างไรก็ดี ยังพอมีเหตุการณ์ปาฏิหาริย์อยู่บ้าง เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงของเมียนมาสามารถค้นหาและช่วยเหลือหญิงวัย 63 ปี ออกจากซากอาคารหลังหนึ่งในกรุงเนปยีดอที่พังถล่ม หลังจากที่หญิงรายนี้ติดอยู่ใต้ซากอาคารนานถึง 91 ชั่วโมง หรือเกือบ 4 วัน ขณะที่ในเมืองมัณฑะเลย์ เด็กสาววัยรุ่น 2 คนและคุณยาย ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม แต่โชคดีไม่ถูกซากอาคารทับ พอมีช่องว่างให้อากาศถ่ายเท จึงประคองชีวิตไว้ได้ และส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ยินก่อนเข้าช่วยเหลือจนปลอดภัย
ล่าสุด ทางการเมียนมาเผยยอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,719 คน และมีแนวโน้มอาจสูงเกินกว่า 3,000 คน มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 4,521 คน ทำให้โรงพยาบาลรองรับไม่ไหว และยังคงมีผู้สูญหายอีก 441 คน ขณะที่สำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ โอซีเอชเอ เผยว่า ผู้ประสบภัยกำลังขาดแคลนทั้งที่พักพิง อาหาร น้ำสะอาด และการดูแลอาการบาดเจ็บ ความต้องการเร่งด่วนและสำคัญที่สุดคือน้ำ ที่ผู้คนในชุมชนต่างๆ ไม่มีน้ำประปาและน้ำดื่ม ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน อาจเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของอหิวาตกโรค พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ช่วยเหลือด้านเงินทุน เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบภัย
ในขณะเดียวกัน ในวันอังคารเมียนมาจัดพิธียืนสงบนิ่ง 1 นาที เพือแสดงความอาลัยแก่เหยื่อเคราะห์ร้ายของเหตุแผ่นดินไหว โดยพิธีการเริ่มต้นตอน 12.51.02 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นชั่วขณะที่เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ โดยมีเสียงไซเรนดังก้องทั่วประเทศ.–815.-สำนักข่าวไทย