ดีอีเอส ยันดำเนินการขอปิดกั้นเพจตามกฎหมาย

กรุงเทพฯ 26 ส.ค.- ดีอีเอส เตรียมส่งจดหมายติดตามการปิดกั้นเพจผิดกฎหมายอีก 1,024 ยูอาร์แอล

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงข่าวกรณีเฟซบุ๊กออกแถลงการณ์แสดงท่าทีหลังจากกระทรวงดิจิทัลขออำนาจศาลเพื่อให้ปิดกั้นเพจที่ผิดกฎหมายว่า กระทรวงฯ เตรียมส่งหนังสือแจ้งเตือนการติดตามการปิดกั้นตามคำสั่งศาล ไปยังสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ เพื่อระงับการแพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมายอีก 1,024 ยูอาร์แอล โดยการแจ้งเตือนการติดตามการปิดกั้นตามคำสั่งศาลอีก จำนวน 1,024 รายการแบ่งเป็น เฟซบุ๊ก จำนวน 661  รายการ,  ยูทูบ 289  รายการ, ทวิตเตอร์  69 รายการ และเว็บอื่นจำนวน  5 รายการ โดยให้ความมั่นใจว่า มีการติดตามให้ทุกแพลตฟอร์มต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล กระทรวงฯ ยืนยันไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด


นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อ15 วันที่แล้ว กระทรวงได้ทำหนังสือแจ้งเตือนถึงสื่อโซเชียล โดยขอให้ช่วยลบและนำข้อความออก จำนวน 1,129 ยูอาร์แอล โดยคำขอได้มีคำสั่งศาลแนบไปด้วย ซึ่งเฟซบุ๊กได้ลบให้ทั้ง 1,129 ยูอาร์แอลอย่างไรก็ดียังมีเว็บที่ไม่เหมาะสมอีกจำนวนหนึ่ง โดยวันนี้จะนำส่งอีก 1,024 รายการ การดำเนินการทั้งหมดเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ทุกยูอาร์แอลที่ส่งให้ดำเนินการเป็นคำสั่งศาลของไทย การดำเนินการต้องเร็วขึ้นแและดำเนินการอย่างจริงจัง ส่วนหากแพลตฟอร์มโซเชียลจะดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย ตนยังไม่เห็นเอกสารอย่างเป็นทางการว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร หากมีการฟ้องมาจริงกระทรวงฯจะมีทีมกฎหมายที่จะชี้แจงตามกระบวนการยุติธรรม การดำเนินการที่ผ่านมาทำเป็นระบบ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีการฟ้องร้องเพราะคำขอที่ขอไปได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากเจ้าของแพลตฟอร์ม กระทรวงฯขอยืนยันว่าเรามีมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมาย และหากแอดมินของเพจที่ผิดกฎหมายจะเปิดเพจอีกกระทรวงก็จะดำเนินการอีก  ส่วนที่บริษัทข้ามชาติจะมาลงทุนในเมืองหรือถอนการลงทุนในประเทศไทยถือเป็นสิทธิของบริษัทนั้นซึ่งการตัดสินใจอย่างใดแต่ละบริษัทได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว

“ที่ผ่านมาเราไม่เคยดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าของแพลตฟอร์มไหนเลยแม้กฎหมายจะเปิดช่องให้ทำได้ ที่ผ่านมาเมื่อแจ้งไปแล้วเจ้าของแพลตฟอร์มดำเนินการให้ตามที่ขอภายใน 15 วัน แต่หากจะมีจะค้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้รวบรวมหลักฐานและดำเนินการ ซึ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายคือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิงเต็มที่มาตรา 27 และประมวลกฎหมายอาญา “ นายพุทธิพงษ์ กล่าว -สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่