“หมออุดม” ย้ำอย่าประมาทโควิด-19 ระบาดรอบ 2 หนักกว่าเดิม

สธ.2 ก.ค.-“หมออุดม”ย้ำโควิดรอบ 2 มาแน่ ขอให้เตรียมรับมือ อย่าประมาท เพราะยังไม่มียารักษา และถึงมีก็อาจไม่ได้ผล เพราะธรรมชาติของโรคระบาดระลอก 2 รุนแรงกว่ารอบ 1 พร้อมเผยผลการตรวจภูมิคุ้มกันแพทย์รามา 800 คน พบมีภูมิคุ้มกันแค่ 22 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3



ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร รองประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แถลงเปิดตัวโครงการ เด็กไทยสู้ภัยโควิด  Thai Kids Fight COVID (TKFC) ว่า ทางคณะนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูงรุ่นที่1-8 ได้จัดทำหน้ากากผ้าที่มีคุณภาพให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนทุรกันดารและนักเรียนที่ขาดแคลน โดยย้ำถึงความสำคัญของหน้ากากอนามัย ที่ช่วยป้องกันโรคได้  


พร้อมย้ำว่าการระบาดระลอก 2 ของโควิด -19 เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะยังไม่มียารักษา โรคและวัคซีน และแม้ว่า ขณะนี้จะมีความพยายามพัฒนาวัคซีนให้สำเร็จ แต่ปลายทางก็อาจไม่สำเร็จก็ได้ ในอดีตของการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน ในสมัย ร.6 มีการระบาดรุนแรง โดยการระบาดในระลอก 2 เสียชีวิต 40 ล้านคน ส่วนการระบาดระลอก 1 ที่มีคนเสียชีวิตมาก 5 ล้านคน ดังนั้นเป็นสิ่งที่ต้องไม่ประมาท  เพราะการระบาดระลอกหลังรุนแรงกว่าครั้งแรกเสมอ  

ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย เชื่อว่าต้องเกิดขึ้น โดยที่น่าห่วงคือกลุ่มแรงงานนอกระบบ ที่มาตามพื้นที่ดิน พรมแดนธรรมชาติ ทั้งจากพม่า มาเลเซีย และกัมพูชา การเฝ้าระวังต้องไม่ประมาท เพราะหากมีอัตราป่วย ขีดความสามารถและศักยภาพของระบบการแพทย์อาจรับไม่ไหว ซึ่งอัตราป่วยที่สามารถรับได้ 30-50 คนต่อวัน จากข้อมูลในต่างประเทศพบว่า สหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการป่วยมากที่สุด กลับพบว่าประชากรที่มีภูมิคุ้มกันโควิด -19 แค่ร้อยละ21 ส่วนสวีเดนที่มีการระบาดรุนแรง กลับพบว่าประชากรมีผู้ภูมิคุ้มกันแค่ร้อยละ 7 ทั้งที่สวีเดนปล่อยให้มีการระบาดในประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ 


ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยในการสำรวจภูมิ คุ้มกันในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.รามาธิบดี 800คน พบว่ามีภูมิคุ้มกันแค่ 22 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3 เท่านั้น พร้อมย้ำกว่า การใช้ชีวิตแบบ new normal  ทุกคน ต้องตระหนักว่า ขณะนี้มีการผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการ ยิ่งต้องเคร่งครัดการสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ รวมถึงการมีระยะห่างอย่างเหมาะสม เพราะ 1 คน หากมีการไอจาม ละอองฝอยจะฟุ้งกระจายได้ 1.86  เมตร และหากมีกระโดดเต้น และทำกิจกรรมอื่น ระยะความรุนแรงของละอองฝอยจะพุ่งไกลได้ถึง 5-10 เมตร  ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัยจึงเป็นเครื่องป้องกันตนเองที่ดีที่สุด  และเด็กยิ่งต้องสวมหน้ากากให้เหมาะสมกับใบหน้า เพราะธรรมชาติของเด็กเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกันได้ยาก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว