รัฐสภา 17 มิ.ย.-กมธ.กฎหมายฯ เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงปม “วันเฉลิม”หายในกัมพูชา ให้พี่สาว-ญาติร่วมฟัง UN ส่งตัวแทนสังเกตการณ์ ด้านรองปลัดกต.ยืนยันช่วยตามเต็มที่
การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นายสุทัศน์ เงินหมื่น รองประธานคณะกรรมาธิการคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม พิจารณาเรื่องร้องเรียนของน.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกระบุว่าถูกลักพาตัวหรือถูกบังคับสูญหายไประหว่างพำนักในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเชิญน.ส.สิตานันและญาติ ๆ ร่วมรับฟังการประชุมด้วย
ส่วนหน่วยงานต่าง ๆ ที่คณะกรรมาธิการฯ เชิญเข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบอาทิ นายธนา เวสโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นาย จาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุล Mr.Badar Farrukh ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้แทนจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก และ Human right watch เข้าร่วมการชี้แจงด้วย ส่วนเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ผู้ประสานงานกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมวันนี้ได้ เนื่องจากติดภารกิจ
นาย รังสิมันต์ โรม โฆษกกรรมาธิการฯ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงได้ เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ ส่วนน.ส.สิตานันตั้งคำถามในที่ประชุมทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ 1. นายวันเฉลิมถูกจับกุมที่ประเทศกัมพูชหรือไม่ ด้วยเหตุใด ปัจจุบันถูกกักขังหรืออยู่ในความควบคุมตัวของใครในกัมพูชาหรือไม่ สถานที่ใด 2. ทางการไทยได้รับแจ้งจากทางการกัมพูชาถึงการจับกุมตัวนายวันเฉลิมหรือไม่
3. ทางการไทยขอให้ทางการกัมพูชาส่งตัวนาย วันเฉลิมกลับมาดำเนินคดีไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่งที่ประเทศไทยหรือไม่ หรือทางการกัมพูชาได้ส่งตัวนายวันฉลิมกลับประเทศไทยหรือไม่ 4. ตรวจสอบกรณีการกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหายที่อาจเกิดขึ้นต่อนายวันเฉลิม และ5. หากทราบสถานที่กักขัง ควบคุมตัว สถานภาพ หรือกรณีเกี่ยวข้องแก่การกระทำทรมานและการบังคับให้สูญหายของนายวันเฉลิม ขอให้เปิดเผยให้ครอบครัวทราบ และให้สิทธิครอบครัวได้เข้าพบโดยเร็ว
พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานประวัติการถูกออกหมายจับของนายวันเฉลิม ว่า มีหมายจับ 3 หมาย ได้แก่ หมายจับของศาลทหาร ในคดีฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557 หมายจับของศาลอาญา คดีผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2561 และปี 2562 ถูกศาลอาญาออกหมายจับในความผิดเดียวกันกับปี 2561 เพิ่มข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
“คดีผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2561 เป็นคดีเดียวที่ตำรวจดำเนินการติดตามตัวนายวันเฉลิม และทราบว่าหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) ผู้รับผิดชอบคดีจึงประสานตำรวจสากล ขอให้ออกหมายแดง ( Red Notice) เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากชี้ว่าเป็นคดีที่เกี่ยวกับการเมือง ทหาร” พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าว
นายธนา เวชโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศประสานกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาแล้วตั้งแต่ทราบเรื่อง พร้อมแจ้งให้พี่สาวนายวันเฉลิมทราบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่ากรมการกงสุลของไทยกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด และเมื่อวันที่11 มิถุนายนที่ผ่านมาเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ได้เข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาด้วย ซึ่งทางกัมพูชาแจ้งรายละเอียดว่านายวันเฉลิมมีประวัติเข้าออกกัมพูชาหลายครั้ง ล่าสุดเข้ากัมพูชาในปี 2558 โดยวีซ่าสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2560 หลังจากนนั้นไม่ต่ออายุวีซ่าอีกเลย
“ส่วนเบาะแส ยอมรับว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า ยืนยันว่าทางกระทรวงพยายามหาข้อมูลจากกระแสข่าวต่าง ๆ ว่าเกี่ยวพันกับยาเสพติดหรือสิ่งกฎหมายหรือไม่ แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริง มีความเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมทั้งไม่มีอะไรยืนยันว่าถูกอุ้มหายไปจริง สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศทำ เป็นสิ่งที่ทำได้มากที่สุดแล้ว เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปจัดการเองได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในกัมพูชา” นายธนา กล่าว.-สำนักข่าวไทย