กมธ.กม.จ่อเรียกนายกฯ แจงปมสลายม็อบ

รัฐสภา 18 ส.ค.-“สิระ” ฉุน ผบ.ตร.ไม่มาชี้แจงการบังคับใช้กฎหมายกับการชุมนุม จ่อเรียกนายกฯ มาแจงในฐานะกำกับดูแล ตร. ขณะคอนโดย่านดินแดง ร้องได้รับผลกระทบหนัก ถูกลูกหลงเสียหาย ถามม็อบทำไมต้องใช้ดินแดงเป็นสมรภูมิซ้ำซาก


คณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน ประชุมติดตามการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง ที่เกิดขึ้นหลังจากมีผู้ร้องเรียนได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมทางการเมือง โดยวันนี้(18 ส.ค.) ได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรรมการสิทธิมุษยชนแห่งชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักเทศกิจกรุงเทพมหานคร และนิติบุคคลคอนโดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ

ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ที่ประชุมได้รับแจ้งว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายตำรวจไม่มาชี้แจง เนื่องจากติดประชุม ทำให้นายสิระแสดงความไม่พอใจ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก แต่ตำรวจกลับไม่ให้ความสำคัญ โดยการประชุมครั้งต่อไปจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะเชิญฝ่ายตำรวจมาชี้แจงอีกครั้ง


นายสิระ แจ้งต่อที่ประชุมว่ากรรมาธิการ 3 คณะกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ได้แก่ กรรมาธิการตำรวจ ซึ่งเชิญฝ่ายตำรวจมาชี้แจงแล้ว และกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปร้องเรียนไว้ ทำให้มีความซ้ำซ้อนทั้งที่ กรรมาธิการกฎหมายฯ มีอำนาจหน้าที่ตรงที่สุดกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงเสนอให้ที่ประชุมมีมติแจ้งไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้วินิจฉัยว่าจะมอบหมายให้กรรมาธิการชุดใดเป็นผู้ดำเนินการ

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ ทั้ง 3 กรรมาธิการพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้การพิจารณาเรื่องนี้มีความชัดเจนและครอบคลุมมากขึ้น

ส่วนผู้แทนจากคอนโดมิเนียมเดอะแคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาวดี ชี้แจงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยน.ส.พรจันทร์ เรืองพรพิณไสว รักษาการประธานกรรมการคอนโด แจ้งว่า คอนโดฯ ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการชุมนุมและ การสลายการชุมนุม ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเสียหาย กระจกคอนโดฯแตก กล้องวงจรปิดเสียหาย มีการปาหินจากฝั่งผู้ชุมนุมและชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ จากฝ่ายตำรวจ ลูกบ้านไม่สามารถเข้าออกคอนโดฯ และยังรับผลกระทบจากเสียงคล้ายระเบิดหลายครั้ง ซึ่งในคอนโดมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ


น.ส.สุคนธา บุญมั่น ผู้จัดการนิติบุคคลคอนโดฯ กล่าวว่า สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือ คอนโดถูกกล่าวหาว่าให้เป็นพื้นที่ให้ตำรวจซุ่มยิงผู้ชุมนุม ทำให้ลูกบ้านต้องอยู่ด้วยความระหวาดระแวง ยืนยันว่าคอนโดฯ ไม่ได้เลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และอยากถามผู้ชุมนุมว่าเหตุใดต้องใช้สามเหลี่ยมดินแดงเป็นสมรภูมิซ้ำซาก ตอนนี้วิถีชีวิตคนดินแดงไม่ปกติเลย และเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ฝ่ายตำรวจยุติการตั้งรับการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เพราะที่ผ่านมามีการนำกำลังตำรวจมาก่อนผู้ชุมนุม ทำให้เกิดปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง