กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – กลุ่มเกษตรกรผู้ร้องศาลปกครองจะยื่นคำร้องให้ศาลเร่งรัดการพิจารณาและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ให้เกษตรกรที่ผลกระทบจากการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสวันพรุ่งนี้ ชี้เกษตรกรเดือดร้อนเข้าสู่ฤดูฝนต้องใช้สารเคมีทางการเกษตรดังกล่าวสำหรับเตรียมแปลงเพาะปลูก
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) จะให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเร่งรัดพิจารณาและมีคำสั่งคำร้องคุ้มครองชั่วคราวในการกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์จากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้แบนสารพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส โดยจะมีเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากไปร่วมแสดงออกถึงความทุกข์ร้อนบริเวณหน้าศาลปกครองกลางด้วย
ทั้งนี้ ได้ร่วมกับเกษตรกรอีก 10 คน ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดหวาน อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ลำไย ลองกอง มะม่วง ทุเรียนกล้วย และมะนาว ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมว่าได้รับผลกระทบจากประกาศดังกล่าวที่กำหนดให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 เป็นผลให้ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า ห้ามนำผ่าน ห้ามส่งออก และห้ามครอบครอง มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากประกาศกระทรวงเป็นอย่างมาก ศาลได้รับคำฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ส.10/2563 โดยมีผู้ถูกฟ้อง 4 ราย คือ กระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย และกรมวิชาการเกษตร ศาลแจ้งว่าจะเร่งพิจารณาคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในการออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎหรือประกาศและกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุดโดยไม่ชักช้า ซึ่งขณะนี้เวลาเนิ่นนานพอสมควรแล้ว ดังนั้น ผู้ร้องทั้ง 11 คน จึงจะยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการดำเนินจัดหาสารทดแทนและวิธีการจัดการที่เหมาะสมเสียก่อน การกระทำดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่ออาชีพเกษตรกรทั่วประเทศที่ยังต้องใช้พาราควอต ซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืชและคลอร์ไพริฟอสเป็นสารกำจัดแมลงศัตรูพืช สำหรับเตรียมสภาพพื้นดินเพาะปลูกช่วงเข้าสู่ฤดูฝน โดยการยื่นคำร้องครั้งนี้หวังว่าศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ให้ผู้ฟ้องคดีและเกษตรกรอีกนับล้านคนทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย