ผลตรวจขวดยาในบ้าน “แม่ปุ๊ก” พบสารกัดกร่อนออกฤทธิ์แรง

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย.-ผลตรวจขวดยาในบ้าน “แม่ปุ๊ก” พบสารกัดกร่อนออกฤทธิ์แรงทำลายอวัยวะ เจอเงินบางส่วนใช้เล่นพนันออนไลน์


คืบหน้าคดีจับกุม น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี หลังพบพฤติกรรมต้องสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางยาทำให้ลูกชายวัย 2 ขวบมีอาการป่วย และเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่รับอุปการะเสียชีวิต เพื่อสร้างเรื่องหวังเงินบริจาค

ต่อมาตำรวจกองปราบได้นำหลักฐานขวดยา และภาชนะบรรจุสารเคมีบางอย่างที่ตรวจพบจากภายในบ้านพักของแม่ปุ๊ก รวมทั้งหมด 15 ขวด ส่งตรวจพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์


เบื้องต้นมีรายงานว่า ผลตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างสารเคมีจากทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า เป็นยารักษาอาการป่วยทั่วไปจำนวน 14 ขวด ส่วนอีก 1 ขวดนั้นเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นเบสระดับความเข้มข้นอยู่ที่ 0.68 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูง และเป็นอันตรายต่อร่างกายหากรับประทานเข้าไป เพราะจะส่งผลให้อวัยวะภายในถูกทำลายจากการกัดกร่อนของสารเคมีตัวดังกล่าว

ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงบนขวดยาทั้ง 15 ขวดนั้น เบื้องต้นไม่พบลายนิ้วแฝงของแม่ปุ๊ก หรือบุคคลอื่นๆในครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้กังวล เนื่องจากขวดยาที่ส่งตรวจนั้น ส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก ทำให้การตรวจหาลายนิ้วมือแฝงต่างๆจึงค่อนข้างยาก

ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของแม่ปุ๊ก ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า เงินบริจาคจำนวนมากหายไปไหน นั้น


พันตำรวจเอกปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองปราบปราม เปิดเผยว่า มีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก เหลือเพียงบางส่วนที่ยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ และมีบางส่วนที่ยังต้องรอหนังสือหลักฐานจากทางธนาคาร ซึ่งจากการตรวจสอบดังกล่าว ทำให้พบว่า ส่วนใหญ่แล้วแม่ปุ๊กมักจะโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายที่จับได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี แต่ก็พบอีกว่า ยังมีเงินบางส่วนถูกนำใช้เล่นพนันออนไลน์ จำนวนหลักหมื่นบาท หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดนี้มาใช้ประกอบสำนวนต่อไป .-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้