ลพบุรี 26 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง ลุยค้นวัดพระบาทน้ำพุ หาหลักฐานเส้นทางการเงินบริจาคมหาศาล ขณะรักษาการเจ้าอาวาส ยืนยันไม่ทิ้งผู้ป่วยแน่นอน
เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท., ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าตรวจค้นภายในอาคารโรงเรียนนาถะศาสตร์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของใจฟ้าฟาร์ม ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี และอยู่ในการดูแลของหลวงพ่ออลงกต เพื่อตรวจสอบเอกสารข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ที่ชั้น 4 และชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงกับเงินบริจาค รวมทั้งการทุจริตยักยอกเงิน โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้น
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้หลังจากดูเส้นทางการเงินและสลิปการโอนเงิน พบว่ามีเงินบริจาคเข้ามาในมูลนิธิเป็นจำนวนมาก แต่ยอดเงินต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง
ขณะที่วัดพระบาทน้ำพุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ สตง. และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปแจ้งแสดงหมายการตรวจค้น และเข้าตรวจค้นบริเวณอาคารรับบริจาคเงินและอาคารต่างๆ พร้อมดูเอกสารการรับบริจาคเงิน โดยมีพระครูสุวัฒน์กิตติสาร เจ้าคณะตำบลเขาสามยอด รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และนายสมพร โสมะเค็ง ไวยาวัจกร เป็นผู้นำตรวจค้น
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสวนกลาง ทราบว่าในวันนี้ลงพื้นที่วัดพระบาทน้ำพุ สนามกีฬาใจฟ้าประชานาถ และกรุงเทพฯ รวมทั้งหมด 17 จุด แต่ที่วัดพระบาทน้ำพุ วันนี้ที่เข้าตรวจค้นมีจำนวน 5 จุด ซึ่งจะดูเรื่องเอกสารการบริจาค เส้นทางการเงิน ว่ามีความผิดปกติอย่างไร
ด้าน พระครูสุวัฒน์กิตติสารเปิดเผยว่า เพิ่งรักษาการได้เพียง 2 วัน ยังไม่ได้ดูว่าสิ่งของภายในวัดมีอะไรบ้าง เพียงแต่เตรียมตัวที่จะทำความสะอาด จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นในวันนี้ก่อน ซึ่งยินดีให้ตรวจสอบทุกเรื่อง แต่ขณะนี้กังวลและเป็นห่วงแต่เพียงว่าในวัดพระบาทน้ำพุ ต่อไปนี้คงจะไม่มีใครเข้ามาบริจาคหรือทำบุญ สิ่งของที่มีอยู่ในปัจจุบันก็จะหมดไป ผู้ป่วยร้อยกว่าชีวิตที่อยู่ในวัดพระบาทน้ำพุ ไม่รวมธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 จะอยู่กันได้อย่างไร หรือจะอยู่ได้อีกนานสักเท่าไร ซึ่งจะเป็นปัญหา เพราะคนป่วยคงไม่ค่อยมีใครเอากลับไปบ้าน เพราะคงจะเป็นที่รังเกียจของเขา ตอนนี้ยังไม่ได้ประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขให้มาดูแล ซึ่งตนเองเป็นเพียงรักษาการ หากเข้าสู่สภาวะปกติแล้วจะให้ผู้ที่มีความสามารถเข้ามาดำเนินการหรือรักษาการแทนต่อไป แต่ระหว่างนี้ยืนยันว่าจะไม่ทิ้งผู้ป่วยแน่นอน.-สำนักข่าวไทย