กองปราบฯ 8 ก.ย. – “อาต๋อย” ศิลปินแห่งชาติ เข้าให้ปากคำตำรวจ หลังมีชื่อเอี่ยวเส้นเงินเชื่อมโยงวัดพระบาทน้ำพุ ยันยอดเงินปัญหามีเส้นเดียว 3 หมื่น เป็นค่าตอบแทนเท่านั้น ยอมรับอึ้ง พอรู้ข่าว ขณะที่ “หัวหน้าวงพิงค์แพนเตอร์-ป้าเม้า สุดา” ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แจงเงิน 4 แสน เป็นเงินค่าจ้างปกติ มีหลักฐานชี้แจง
นายวินัย พันธุรักษ์ หรือ “อาต๋อย” ศิลปินแห่งชาติ และหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งวง The Impossibles เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปราม หลังพบมีชื่อเกี่ยวข้องกับเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ และอดีตพระอลงกต โดยนายวินัย ระบุว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาให้ปากคำ และชี้แจงด้วยปากเปล่าก่อน ในเรื่องของเส้นเงินทั้งหมด โดยเฉพาะยอดเงินที่เป็นประเด็น งานวันที่ได้ไปร่วมร้องเพลงคอนเสิร์ต “วันภาษาไทย” ทั้งหมด 5 เพลง ภายในหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นงานคอนเสิร์ตที่ตนได้ร่วมงานกับวัดพระบาทน้ำพุ ครั้งที่ 3
ส่วนหลักฐานเอกสารสเตทเมนต์ต่าง ๆ มั่นใจว่า ถ้าชี้แจงด้วยตัวเองวันนี้แล้ว หากตำรวจต้องการเพิ่มเติม ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลับไปเอามามอบให้ทางพนักงานสอบสวนต่อไปได้ โดยภายในงานวันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันภาษาไทย ตนได้พบเพื่อนศิลปินมากมาย หนึ่งในนั้นมี “วงพิงค์แพนเตอร์” และเมื่อแสดงจบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของทางผู้จัดงานก็โอนเงินให้เป็นเงินค่าตอบแทน ยอด 3 หมื่นบาท ซึ่งตนจะมายืนยันว่า เงินยอดนี้เป็นเส้นเงินที่ทางวัดโอนมาให้ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดงาน หรือเงินที่รับบริจาคอะไรทั้งสิ้น รวมถึงไม่ได้ไปรับงานเพื่อโปรโมทหรืออะไรให้กับทางวัด เพราะทุกงานเขาก็มีผู้จัดงานเอง เราไม่ได้ไปจัดแจง หรือบอกว่าเราต้องรับเงินเท่าไหร่ ยอมรับว่าไม่รู้จริงๆ ว่ายอดเงินบริจาคแต่ละงานได้เท่าไหร่บ้าง
นายวินัย ยังยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำอะไรที่ผิดวัตถุประสงค์ และไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลย พวกเราศิลปิน พอจบงานแล้วก็คือจบ อย่างอื่นเราไม่ทราบ เพราะก็ทราบเหมือนทุกคน ไม่เคยไปยืมเงินวัดด้วย“
เมื่อนักข่าวถามว่า พอทราบว่า อดีตพระอลงกต มีพฤติกรรมแบบนี้ รู้สึกอย่างไร นายวินัย ยอมรับว่า “ก็อึ้ง” ส่วนการเปิดเผยชื่อศิลปิน ตนก็อยากจะชี้แจง เพราะพอมีชื่อ บางคนก็เข้าใจผิด ตนในฐานะศิลปินแห่งชาติ อยู่ในวงการนี้มานาน หลายคนรู้ดีว่าตนมีพฤติกรรม และความประพฤติอย่างไร วันนี้ตนก็แค่อยากอธิบายให้สังคมเข้าใจ ก็ทำให้รู้สึกสบายใจไปด้วย
ส่วนก่อนหน้านี้ก็มีรับงานกับทางวัดพระบาทน้ำพุบ้างนาน ๆ ครั้ง มีคนชักชวน ใกล้ชิดที่สุดก็คือ ”วงพิงค์แพนเตอร์“ เขาก็รับงานมา และได้เชิญไปร่วมงานกันมานานราวๆ 8-9 ปีได้แล้ว ก็ไปทั้งงานกุศล และบางงานได้เป็นค่ารถ ค่ายานพาหนะเท่านั้น
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ตนยังเคยไปพบอดีตพระอลงกตบ้างตามงาน ก็เข้าไปกราบตามปกติ ไม่ได้สนิทถึงขั้นมีเบอร์ส่วนตัวกัน เวลามีงานก็จะมีคนติดต่อผ่านมาว่าให้ไปงานวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งตนก็ไป และไปกันหลายคนด้วย
ด้านนายวิชัย ปุญญะยันต์ หรือ “อาต๋อย” หัวหน้าวงดนตรีพิงค์แพนเตอร์ (Pink Panther) และนางสุดา ชื่นบาน หรือ “ป้าเม้า” นักร้องและนักแสดง เดินทางเข้าชี้แจงกรณีวัดพระบาทน้ำพุจ้างเล่นคอนเสิร์ต โดย อาต๋อย ระบุว่า วันนี้นำหลักฐานการโอนเงินค่าใช้จ่ายที่ได้รับค่าจ้างจากวัดพระบาทน้ำพุ ในการแสดงคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง โดยตนเองได้จัดคอนเสิร์ตร่วมกับวัดพระบาทน้ำพุ 10 ปี จัดมาประมาณ 7 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะเล่น 30 เพลง และได้รับเงินค่าจ้างประมาณครั้งละกว่า 400,000 บาท ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะมีการกระจายรายได้ให้กับคนที่มาร่วมจัดคอนเสิร์ต ทั้งนักดนตรี นักร้อง และลูกจ้างต่างๆ โดยเฉพาะวงของตนเองเป็นวงออร์เคสตราที่มีเครื่องดนตรีประมาณ 40 ชิ้น เมื่อแบ่งค่าใช้จ่ายจะตกประมาณคนละ 8,000 บาท แต่ตนเองเป็นคอนดักเตอร์และนักร้อง จึงได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท ซึ่งการรับเงินในแต่ละครั้งจะผ่านคนกลางก็คือ นายหนุ่ย ซึ่งวันนี้ก็จะเดินทางมาร่วมชี้แจงด้วยเช่นกัน ยืนยันว่า ตนเองไม่มีการรับเงินเพื่อบริจาคให้กับวัด เนื่องจากคอนเสิร์ตแต่ละครั้งเป็นคอนเสิร์ตการกุศล จัดให้ลูกศิษย์ของวัดชม โดยลูกศิษย์ของวัดหากมาร่วมงานแล้วบริจาคเงิน ก็จะบริจาคเงินโดยตรงให้กับทางวัด ไม่ได้ผ่านในส่วนของตนเอง
ที่ผ่านมาตนเองได้บริจาคเงินให้กับทางวัดมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ไปเล่นคอนเสิร์ตอื่นๆ ก็จะหักรายได้ประมาณ 1 แสนบาทต่อครั้ง ให้กับทางวัด โดย 1 แสนบาท จะมีการตกลงกับทางวัดไว้ก่อนแล้ว หากรายได้ไม่ถึงก็จะต้องควักเนื้อให้ ยอมรับว่าตนเองศรัทธาในตัวทิดอลงกต ในช่วงแรกเป็นเหมือนพระเอกที่มาช่วยเหลือคนอื่น
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ทิดอลงกตให้การกับตำรวจว่า โดนศิลปินโกงเงิน 4 แสนบาท ป้าเม้าถึงกับอุทานขึ้นมาว่า “ทุเรศ” พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเงินวัด ส่วนอาต๋อย พูดเสริมว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องนี้ออกมา ยอมรับว่าเสียใจ แต่เราไม่รู้ว่าเงินอะไรมาจากไหน ตนเองทำงานตรงนี้มาเป็นเวลานาน 57 ปี ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย เพียงแค่คนคนเดียวที่ออกมาพูดถึงตนเองไม่ดี ซึ่งที่ผ่านมา วัดพระบาทน้ำพุจัดคอนเสิร์ตกับวงอื่นๆ มาเยอะมาก ของตนเองมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น.-415-สำนักข่าวไทย