เกษตรกรเตรียมร้องศาลปกครองชะลอแบน 2 สารเคมี

กรุงเทพฯ  20 พ.ค. – เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด เตรียมร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว ยืดระยะเวลาบังคับการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิถุนายน รวมทั้งฟ้องผู้เกี่ยวข้องทุกรายที่ทำให้เกษตรกรต้องขาดสิ่งที่ใช้ในการประกอบอาชีพ ต้องใช้สิ่งทดแทนทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ชี้การพิจารณาแบนไม่อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์



นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวถึงการแบนพาราควอตและคลอร์ไพรฟอส ว่า ได้รับทราบถึงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2563 ที่ลงนามโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้ว ขณะนี้ประกาศกระทรวงดังกล่าวประกาศในราชราชกิจจานุเบกษา ระบุถึงการยกระดับสารเคมีทางการเกษตร ได้แก่ พาราควอต พาราควอตไดคลอไรด์ คลอร์ไพริฟอส และคลอร์ไพริฟอส-เมทิล จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 ซึ่งมีผลให้ห้ามผลิต นำเข้า นำผ่าน ส่งออก และครอบครอง อีกทั้งต้องปฏิบัติตามพนักงานเจ้าหน้าที่ คือ กรมวิชาการเกษตรในระยะเวลาที่กำหนด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 


นายสุกรรณ์ กล่าวว่า จะร่วมกับผู้แทนกลุ่มเกษตรกรพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และไม้ผล ร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวยืดระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายนี้ไปก่อน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกร ซึ่งจะขาดสิ่งที่ต้องใช้ในการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังไม่มีสารที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมมาทดแทน โดยเฉพาะพาราควอตเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช หากใช้สารเคมีชนิดอื่นจะต้องใช้ปริมาณมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบใด ๆ 

จากนั้นจะฟ้องผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร รวมถึงเอ็นจีโอ ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ที่สำคัญ คือ การแบนสารเคมีทั้ง 2 ชนิด ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ งานวิจัยที่นำมาพิจารณานั้นยังมีข้อถกเถียงถึงความถูกต้อง อีกทั้งขั้นตอนการพิจารณามีความผิดปกติ คือ ผลการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายแต่ละครั้งออกมาไม่เหมือนกัน เป็นมติที่กลับไปกลับมา ทั้งที่ใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน ซึ่งกลุ่มเกษตรกรจะร้องศาลปกครองเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย