สภาพัฒน์ แจงเงินกู้ 4 แสนล้าน ฟื้นเศรษฐกิจสังคมเข้มแข็งยั่งยืน

ทำเนียบรัฐบาล 12 พ.ค. –  สภาพัฒน์ ชี้แจงเงินกู้ 4 แสนล้าน หลัง ครม.พิจารณา กรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมให้เข้มแข็งยั่งยืน 


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีการพิจารณากรอบนโยบายฟื้นฟูทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยประเทศไทยต้องหันมาสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ จากเดิมที่อาจจะเคยเน้นเรื่องการส่งออก สร้างความเจริญเติบโตให้ประเทศ เรื่องท่องเที่ยวที่เข้ามาจำนวนมากเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 แล้ว เราได้มีการถอดบทเรียนดังกล่าว โดย ครม. อนุมัติแนวทางการใช้เงินกู้เพื่อที่จะสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในประเทศให้มากขึ้น

ขณะที่ วัตถุประสงค์หลักของเงินกู้ 4 แสนล้านบาท คือ พยายามสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับชุมชน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลต่อประชาชน และผู้ประกอบการ ขาดรายได้ที่เคยได้รับตามปกติ ซึ่งเงินกู้นี้จะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ  เพื่อสร้างความเข้มแข็ง เพื่ออนาคตของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบในเรื่องของเกษตรและอาหาร จึงจะใช้เงินกู้สร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นเรื่องเกษตรแปรรูปและอาหาร 


ขณะเดียวกันให้ความสำคัญในระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยแรงงานส่วนหนึ่งที่ต้องกลับไปยังภูมิลำเนาเดิม จำเป็นต้องมีการสร้างงานรองรับ โดยจะนำเงินกู้นี้มาสร้างเศรษฐกิจระดับชุมชน วิสาหกิจเพื่อชุมชน หรือสหกรณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในท้องถิ่นยืนอยู่ได้ต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ หัวใจหลักอีกประการที่สำคัญคือ เน้นความยั่งยืน ไม่เน้นเชิงปริมาณ อาจจะไม่เน้นในเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเหมือนเดิม แต่จะเน้นความมั่นคง ความยั่งยืนของประเทศ เพื่อให้ทุกคนยืนได้ด้วยความมั่นคงต่อไป พร้อมทั้งสอดคล้องกับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า New Normal มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ เราต้องทำให้เศรษฐกิจและสังคมไทยยืนได้ในอนาคตยืนอยู่ได้ในระบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น การใช้เงินกู้นี้น่าจะเป็นหัวเชื้อประการหนึ่งที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของทิศทางในการพัฒนาประเทศต่อไป และหลังจากใช้เงินกู้ เราพยายามที่จะให้มีเงินเข้าสู่งบประมาณเดือนกรกฎาคม หรือไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ หลังจากนั้นจะไปต่อกับงบประมาณปี 2564 – 2565 ทั้งหมดนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

พร้อมย้ำว่า เงินกู้ยังช่วยรองรับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย เพราะจะมีส่วนหนึ่งที่ลงไปในภาคเกษตร ดูแลแหล่งน้ำชุมชนต่างๆ อีกเรื่องอยากเน้น คือ แม้ว่าจะมีวงเงินกู้ 400,000 ล้านบาท แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หมด จะเลือกเฉพาะโครงการสำคัญที่จะนำการเปลี่ยนแปลงได้ ที่สำคัญที่สุด การใช้จ่ายจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบออนไลน์ได้ ข้อมูลต่างๆ จะนำลงเว็บไซต์ โดยมีผู้ตรวจราชการ ประชาชน นิสิตนักศึกษา ร่วมกันลงพื้นที่เป็นหูเป็นตาดูแลความโปร่งใสมากขึ้น มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต