กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – สศช.แนะทุกหน่วยงานเสนอแผนลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
4 แสนล้านบาท พบหลายหน่วยงานแห่เสนอแผนลงทุน 28,000 โครงการ วงเงินกว่า 3.72 แสนล้านบาท ดึงยูเอ็น สภา
ประชาชน ร่วมตรวจสอบความโปร่งใส ยืนยัน ส.ส.ไม่สามารถแบ่งเค้กเป็นรายพื้นที่
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแแห่งชาติ
(สศช.) เปิดเผยว่า การเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก หลังจากปัญหาโควิด-19 คลี่คลายผ่านการใช้งบประมาณลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
วงเงิน 400,000 ล้านบาท
ได้กำหนดตารางแผนงานลงทุน เพื่อเปิดให้องค์กร หน่วยงานท้องถิ่น สหกรณ์
วิสาหกิจชุมชน กลุ่มประชาชน ชมรม เสนอแผนลงทุนเข้ามาให้ สศช.พิจารณา
ขณะนี้หลายหน่วยงานเสนอแผนลงทุนมาให้พิจารณาแล้ว ณ วันที่ 5 มิถุนายน จำนวน
28,331 โครงการ วงเงิน 372,000 ล้านบาท แยกเป็นหน่วยงานระดับจังหวัด 55 จังหวัด วงเงินลงทุน 203,643 ล้านบาท
มีทั้งระดับจังหวัด อบจ. เทศบาล อบต.
ในส่วนของระดับกระทรวง เช่น กระทรวงเกษตรฯ เสนอเกษตรแปลงใหญ่
เพื่อพัฒนาทำเกษตร เครื่องมือเครื่องจักร แหล่งน้ำ การแปรรูป กระทรวงอุตสาหกรรม
เสนอแผนพัฒนาอุตสหากรรมอาหาร การช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงิน 168,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สศช.กำหนดเวลาตั้งแต่วันที่ 5-15 มิถุนายน 2563
อนุกรรมการได้เริ่มกรั่นกรองแผนลงทุน หลังเปิดให้ทุกภาคส่วนเสนอแผนลงทุนล็อตแรกเข้ามา
จากนั้นคณะกรรมการกลั่นกรองเตรียมนำโครงการเสนอ ครม.พิจารณาแผนลงทุนล็อตแรก 2-7 กรกฎาคมนี้ เพื่ออัดฉีดเงินออกสู่ระบบหวังพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ยอมรับยอดเงินลงทุนที่เสนอมาครั้งนี้อาจเกินกรอบเงินกู้ 400,000 ล้านบาท
แต่ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองอีกหลายขั้นตอน ดังนั้น แผนลงทุนที่จะได้รับการพิจารณาควรอยู่ในกรอบที่กำหนด
ประกอบด้วย แผนงานการเติบโตอย่างยั่งยืน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เกษตรอัจฉริยะ
เกษตรแปลงใหญ่ การท่องเที่ยวคุณภาพสูง เกษตรทฤษฎีใหม่ การท่องเที่ยวชุมชน
แผนงานด้านเศรษฐกิจฐานราก เช่น การผลิต แปรรูป การท่องเที่ยวชุมชน
การพัฒนาสินค้าโอทอป การตลาดออนไลน์ สำหรับการกระตุ้นการบริโภค เช่น ด้านการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการคลังกำลังหารือร่วมกันในการแจกคูปองให้กับนักท่องเที่ยว คาดว่าสรุปได้ในเร็ว ๆ นี้
เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทย หากหน่วยงานใดยังเสนอแผนลงทุนไม่ทันจะมีเปิดให้เสนอรอบ
2 อีกวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ยอมรับตัวเลขเงินลงทุนเป็นเพียงยอดการเสนอ
คณะกรรมการต้องตรวจสอบคัดกรองให้อยู่ในกรอบวงเงิน 400,000 ล้านบาท
นายทศพร ย้ำว่า ต้องการเชิญชวนประชาชนเข้ามาช่วยตรวจสอบการใช้งบประมาณลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 400,000 ล้านบาท เพราะคณะกรรมการกลั่นกรองยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
เปิดเผยโปร่งใส ทั่วถึง เที่ยงธรรม
เกิดผลสัมฤทธิ์ ตอบสนองความต้องการ ประชาชนมีส่วนร่วม ตรวจสอบได้ ชอบด้วยกฎหมาย
และยังได้เชิญบุคคลที่ 3 ได้แก่ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกรรมาธิการชุดต่าง
ๆ สภา มาร่วมทำงานตรวจสอบ ติดตาม
ประเมินผล เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าเงินกู้ 400,000 ล้านบาทไปอยู่ไหน หากมีการทุจริตคอร์รัปชั่นจะได้มีองค์กร
หน่วยงานช่วยกันตรวจสอบ ยืนยัน ส.ส.ไม่สามารถแบ่งเค้กเงินลงทุนเป็นรายพื้นที่
เพราะมีการติดตามตรวจสอบหลายมิติ
โดยวันนี้ สศช.ได้เปิดเว็บไซค์ www.nesdc.go.th เพื่อให้ทุกองค์กรเข้ามาดูแบบอย่างแผนลงทุน
หรือแนะนำ เพื่อให้ประชาคมช่วยกลั่นกรองงบลงทุนตามความต้องการของชุมชน หมู่บ้าน
องค์กรท้องถิ่น ซึ่งได้คิดศึกษาไว้แล้ว หรือการริเริ่มโครงการใหม่
เพื่อให้ตรงกับความต้องการ จากนั้นเสนอให้คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ
(ก.บ.จ.) พิจารณา และเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง จากนั้นเสนอ ครม.พิจารณา หลังจาก ครม.อนุมัติแล้ว อยากเชิญชวนภาคประชาชนเข้ามาช่วยติดตามความคืบหน้าการลงทุนผ่านในเว็บไซต์
สศช.ผ่านเว็บไซต์ http://Thai Me nesdc.go.th.- สำนักข่าวไทย