สศช.เผยจีดีพีไตรมาส 1 ติดลบ 1.8% ทั้งปีติดลบ 5-6%

กรุงเทพฯ  18 พ.ค.-สศช.เผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/63 ติดลบ 1.8% โดยเป็นการติดลบครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 57 ขณะที่ทั้งปีคาดจะติดลบ 5-6% 


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีไตรมาส 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนติดลบ 1.8% โดยเป็นการติดลบครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2557 และคาดว่าไตรมาส 2 จะติดลบมากกว่าไตรมาส 1 ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 คาดจะติดลบ 5- 6% จากการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจและการค้าโลก การลดลงของจำนวนและรายได้จากภาคท่องเที่ยวต่างชาติ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าส่งออกทั้งปีจะติดลบ 8% 

สำหรับตัวเลขประมาณการณ์จีดีพีทั้งปีที่คาดว่าจะติดลบ 5-6% อยู่ภายใต้สมมติฐานการแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถควบคุมได้ภายในไตรมาส 2 และไม่มีการแพร่ระบาดรอบ 2 กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาขับเคลื่อนได้ในไตรมาส 2 และเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในไตรมาส 3 และนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 3 และ 4


ขณะที่ความคืบหน้าการใช้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบเยีวยา 555,000 ล้านบาท ล่าสุดคงเหลือ 190,000 ล้านบาท โดยเยียวเกษตรกร 10 ล้านคน เยียวยา 5,000บาท จำนวน 16 ล้านคน  ประกันสังคม 11 ล้านคน และกลุ่มเปราะบางของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) 14 ล้านคน ขณะที่ 45,000 ล้านบาท จะเป็นงบด้านสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการทำแผนใช้งบ และงบอีก 400,000 ล้านบาท จะเป็นงบสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นเงินที่ลงสู่ท้องถิ่นรวมถึงการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้แต่ละหน่วยงานอยู่ระหว่างจัดทำโครงการ คาดจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายน และสามารถเบิกจ่ายได้ตั้งแต่กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ เลขา สศช. ระบุว่า สำหรับเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ไม่ได้คาดหวังการกระตุ้นตัวเลขจีดีพี แต่หวังช่วยประคองเศรษฐกิจ และเชื่อว่าสถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งมีความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขและคนไทย โอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 จึงมีน้อย ดังนั้น เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทจึงเพียงพอ โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นแบบตัวยู ทั้งนี้ ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังแล้ว และเป็นตัวเลขเดียวกัน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง