สภาพัฒน์ฯ คาดพิษโควิด ทำคนไทยตกงานราว 2 ล้านคน

สศช.28 พ.ค.-สภาพัฒน์ฯ แถลงรายงานสถานการณ์ผลกระทบโควิด-19 อาจส่งผลให้คนตกงานราว 2 ล้านคนตลอดทั้งปี และเสี่ยงถูกเลิกจ้าง 8.4 ล้านคน เทียบเท่าพิษเศรษฐกิจปี40 คาดเงินกู้ 4 แสนล้าน อาจช่วยสร้างงานกว่า 3 แสนตำแหน่ง คนที่มีทักษะด้านออนไลน์และดิจิทัล จะหางานง่าย


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงรายงานภาวะสังคมไทย ไตรมาสหนึ่ง ปี 2563 จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แบ่งเป็น ผลกระทบต่อการจ้างงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าแรงงานมีความเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง 8.4 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงาน 3 กลุ่ม คือแรงงานในภาคการท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน ,แรงงานภาคอุตสาหกรรม 1.5ล้านและแรงงานในภาคบริการอื่นๆที่ไม่ใช่ภาคการท่องเที่ยว 4.4 ล้านคน 

อย่างไรก็ตามสภาพัฒน์ฯคาดว่าผลกระทบจากโควิดจะชัดเจนมากขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งคาดว่ารวมตลอดทั้งปี 63 จะมีผู้ว่างงาน ราว 2 ล้านคน  แต่เมื่อสถานการณ์ควบคุมได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการทำให้ระบบเศรษฐกิจบางประเภทเปิดดำเนินการได้ และรัฐบาลมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ  รวมถึง พ.ร.ก.เงินกู้4 แสนล้านบาทถูกนำมาใช้จะช่วยจ้างงานคนกลุ่มนี้ได้มากขึ้น ราว 2-3 แสนตำแหน่ง ซึ่งต้องกลับมาดูตัวเลขในภาพในไตรมาส ต่อไป 


ขณะเดียวกันในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฏาคม คาดว่าจะมีแรงงานจบใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานประมาณ 5.2 แสนคน ซึ่งอาจไม่มีตำแหน่งงานรองรับ  จึงจำเป็นต้องมีมาตรการสร้างงานและจ้างงานเพื่อรองรับกลุ่มเสี่ยง แต่เชื่อว่ากลุ่มแรงงานจบใหม่มีทักษะด้านดิจิทัล จะสามารถทำให้หางานไม่ยาก เนื่องจากช่วงโควิด-19 ทำให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานผ่านออนไลน์และดิจิทัลมากขึ้น

ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของครัวเรือนไทย ยังพบครัวเรือนส่วนใหญ่ยังคงซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภค-บริโภค แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มจบใหม่ และเริ่มทำงาน พบว่า รายได้ไม่เพียงพอรายจ่าย  เน้นจ่ายเงิน ไปกับการท่องเที่ยว ดูแลความสวยความงาม  ดื่มและมีแนวโน้มคลั่งไคล้การชอปปิ้ง ซึ่งเป็นจุดที่น่าเป็นห่วงเพราะส่วนใหญ่ฟุ่มเฟือย ไม่สนใจการออม พฤติกรรมก่อหนี้ซ้ำนำไปปิดบัญชีอื่น นำเงินกู้ไปใช้จ่ายไม่ตรงวัตถุประสงค์  ควรให้การศึกษาและการบริหารเงินเพิ่มขึ้นกับคนกลุ่มนี้ 

เลขาธิการฯสภาพัฒน์ กล่าวด้วยว่า การถอดบทเรียนจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง กระทบต่อการจ้างงาน วิถีชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยน ทุกอย่างเน้นการใช้ออนไลน์มากขึ้น ทั้งการซื้อของ การทำงาน แต่ข้อดีคือการติดต่อที่ไวขึ้น การทำงานไวขึ้น แต่ก็ส่งผลต่อสุขภาพจิต และปัญหาครอบครัว เพราะรายได้ที่ลดลง การกักตัวอยู่บ้าน ส่วนคุณภาพสิ่งแวดล้อม หลายคนอาจจะเห็นสิ่งแวดล้อมถูกฟื้นฟูมากขึ้น แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น คือขยะทางการแพทย์ และขยะพลาสติกจากโฮมเดลิเวอรี่ 


นอกจากนี้ที่น่าห่วงคือการออกนอกระบบการศึกษา ของกลุ่มเยาวชน 15-24 ปี ไม่ได้เรียนต่อและไม่มีงานทำจะเพิ่มสูงขึ้นถึง1.2 ล้านคน จึงหวังว่าปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไข และการออก พ.ร.ก.เงินกู้ 1ล้านล้านบาท จะมีช่วยสร้างงานให้คนกลุ่มนี้ด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน

ผ่านฉลุย! สภาโหวตไว้วางใจ “นายกฯ แพทองธาร” 319 เสียง

สภาโหวตไว้วางใจ “แพทองธาร” นั่งนายกฯ ต่อฉลุย 4 สส.ปชป.งดออกเสียง และไร้เงา “รตอ.เฉลิม” แต่ได้แถมเสียงงูเห่ามา 7 เสียงจากไทยสร้างไทย-พปชร.และ “ปูอัด” ขณะที่นายกฯ ไหว้ขอบคุณ สส. หลังโหวต