เตือนผู้ประกันตน ม.33 ถูกเลิกจ้างให้ขึ้นทะเบียนจ่ายประโยชน์ทดแทนใน 30 วัน

ก.แรงงาน 20 ส.ค. – ผู้ประกันตนมาตรา 33 ถูกเลิกจ้าง อย่าลืม! ขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน ประกันสังคมจ่ายประโยชน์ทดแทนให้ร้อยละ 60 รับสูงสุด 5.4 หมื่น


ผู้ประกันตนมาตรา 33 ออกจากงานหรือตกงานเพราะถูกเลิกจ้าง เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจหรือเป็นฝันร้ายของมนุษย์เงินเดือนเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทำให้หลายคนต้องอยู่ในสถานะสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างหรือพนักงานในสถานประกอบการอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่วันนั้นจะมาถึงจึงต้องศึกษาและทำความเข้าใจ ในหลักประกันขั้นพื้นฐานในฐานะที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมานานหลายปี เมื่อมีเหตุให้ต้องตกงานจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จะถูกเก็บเงินสมทบ 5% ของเงินเดือนทุกเดือนเข้ากองทุนประกันสังคม โดยคำนวณจากฐานเงินค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินค่าจ้างสูงสุด 15,000 บาท ขณะที่นายจ้างจะจ่ายสมทบให้ด้วย 5% และรัฐบาลจ่ายสมทบอีก 2.75% เงินส่วนนี้จะถูกแบ่งตามอัตราส่วนที่แตกต่างกันเพื่อไปดูแล กรณีเจ็บป่วย 0.88% กรณีคลอดบุตร 0.12% กรณีทุพพลภาพ 0.44% กรณีสงเคราะห์บุตรและกรณีชราภาพ 3.00 % กรณีว่างงาน 0.50% และกรณีเสียชีวิต 0.08% จะเห็นได้ว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่าง เมื่อเราจ่ายเงินไปแล้วทุกเดือนก็ควรรักษาสิทธิประโยชน์ที่ควรได้

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงสิทธิประโยชน์ในกรณีว่างงานหรือถูกเลิกจ้าง ผู้ประกันตนจำเป็นต้องมีเงินชดเชยมาใช้จ่ายในขณะว่างงาน หากผู้ประกันตนไม่รู้ถึงสิทธิประโยชน์แล้วปล่อยผ่านไปโดยไม่ได้ใช้สิทธิจะน่าเสียดายมาก ในกรณีที่ถูกเลิกจ้างโดยที่ไม่ได้มีความผิดอะไร แต่บริษัทอาจจะมีความจำเป็นต้องปรับลดพนักงาน ผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน มากกว่าในกรณีที่ลาออกเอง โดยก่อนหน้านี้กรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วันใน 1 ปีปฏิทิน ส่วนกรณีว่างงานจากการลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลาจะได้รับประโยชน์ทดแทนว่างงานร้อยละ 30 ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 90 วันใน 1 ปีปฏิทิน และตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา ประกันสังคมได้ปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน (สำหรับกรณีเลิกจ้าง) จากเดิมที่จ่ายร้อยละ 50 เพิ่มเป็นร้อยละ 60 โดยคำนวณจากฐานค่าจ้างจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท


ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งรวมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องและมีการจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีว่างงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงานและถูกเลิกจ้าง เมื่อถูกเลิกจ้างจะได้รับประโยชน์ทดแทนได้สูงสุดไม่เกินเดือนละ 9,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้สูงสุดเดือนละ 7,500 บาท ในระยะ180 วัน (6 เดือน) จะได้รับประโยชน์ทดแทนสูงสุด 54,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยได้รับสูงสุด 45,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในช่วงที่ว่างงาน หรือรองานใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตในช่วงนี้มีความคล่องตัวขึ้น

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึง ขั้นตอนการขอใช้สิทธิประโยชน์ว่างงาน เพื่อรับเงินชดเชยจากประกันสังคม ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สามารถลงทะเบียนว่างงานผ่านเว็บไซต์ https://e-service.doe.go.th ภายใน 30 วัน นับจากวันที่สิ้นสุดการจ้างงาน โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว และกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม กรณีว่างงาน (สปส.2-01/7 ) พร้อมแนบไฟล์สำเนาบัญชีธนาคาร และจะต้องรายงานตัว ตามนัดหมายเดือนละ 1 ครั้ง จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนตั้งแต่วันที่ 8 ของการว่างงานไปจนครบสิทธิที่ควรได้รับ หรือยื่นแบบฟอร์มที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นสำนักงานใหญ่)

ทั้งนี้ ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานไม่สามารถขอย้อนหลังได้ ต้องยื่นขึ้นทะเบียนภายใน 30 วัน หลังลาออกหรือถูกเลิกจ้างเท่านั้น สำนักงานประกันสังคมพร้อมให้การดูแลผู้ประกันตนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหรือคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและส่งเงินสมทบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ประกันตนคลายวิตกกังวลลงได้บ้างในวันที่ต้องว่างงาน.-417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]