เตรียมจ่ายเงินชดเชยให้แม่น้องหมีพูห์ ถูกรถชนจนเดินไม่ได้

นนทบุรี 7 พ.ค.-บริษัทประกันเตรียมจ่ายเงินชดเชยให้แม่ “น้องหมีพูห์” เด็กชายวัย 14 ปี เบื้องต้น 250,000 บาท วันที่ 12 พ.ค.นี้ หลังร้องทนายดังช่วยแม่ถูกรถชนตั้งแต่ ส.ค.62 จนเดินไม่ได้ แต่ยังไม่ได้เงินชดเชย คู่กรณีจ่ายมาให้เพียง 5,000 บาท ทำครอบครัวเดือดร้อนหนัก



แม่น้องหมีพูห์ ที่ถูกรถชนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมปี 62 ที่ จ.นครปฐม จนเดินไม่ได้ทำให้ครอบครัวขาดรายได้มาจุนเจือ และต้องกู้เงินมารักษาตัว เนื่องจากรถคู่กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือขณะประสบอุบัติเหตุเพียง 5,000 บาท วันนี้ตัวแทนบริษัทประกันภัย เข้าเจรจากับแม่น้องหมีพู ที่ คปภ.ถนนรัตนาธิเบศร์ เบื้องต้นเตรียมจ่ายชดเชย 250,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองรถยนต์ ที่เจ้าของรถคู่กรณีทำไว้ ส่วนค่าชดเชยค่าขาดประโยชน์อื่นๆ ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขได้


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาเด็กชายภูริภัทณ์ หรือน้องหมีพูห์ ศรีทองคำ อายุ 14 ปี พร้อมนางณัฐชาวีรีย์ ภิรมย์เมือง มารดา ที่ถูกรถชนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมปี 2562 ได้รับบาดเจ็บหัวไหล่หลุด แขนหัก ก้านคอร้าว ทำให้ขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ เข้าพบนายไมตรี ชนูดหอม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จ.นนทบุรี เพื่อขอให้เป็นคนกลางประสานไกล่เกลี่ยกับบริษัทประกันเจ้าของรถคู่กรณี เรื่องการช่วยเหลือเงินสินไหมทดแทนประกันอุบัติเหตุ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองรถยนต์ เพราะที่ผ่านมาผู้เสียหายไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทประกันภัย และยังไม่มีการติดต่อเข้ามา เพื่อมาตกลงค่าสินไหมทดแทน ซึ่งตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครอบครัวมีความเดือดร้อนมาก รถและที่ดินที่เอาไปจำนอง เพื่อนำเงินมารักษาตัว ใกล้ถูกยึด เนื่องจากไม่มีเงินส่งดอก ส่วนคู่กรณีมาเยี่ยมเพียงครั้งเดียว  และมอบเงินช่วยเหลือมาเพียง 5,000 บาท


ด้านนายนริศ คล้ายทิพย์ ผู้จัดการบริษัทวิริยะประกันภัย มาพบสองแม่ลูกเพื่อเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน พร้อมยกมือไหว้ขอโทษสองแม่ลูก บอกว่า สาเหตุที่ทำให้การชดใช้ค่าเสียหายล่าช้า เนื่องจากบริษัทต้องรอเอกสารจากแพทย์ที่ให้การรักษาว่า การรักษานั้นวินิจฉัยอย่างไร บริษัทเองไม่ได้นิ่งเฉย เบื้องต้น บริษัทฯ จะจ่ายค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองรถยนต์ 250,000 บาท โดยจะจ่ายให้ในวันอังคารที่ 12 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ส่วนค่าชดเชยสำหรับคนเจ็บ ที่ยังไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพได้  ยังให้คำตอบเป็นตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แต่รับรองว่าจะดูแลชดใช้ในทุกด้านที่ผู้เสียหายได้รับผลกระทบ

ขณะที่นางณัฐชาวีรีย์ ภิรมย์เมือง กล่าวว่า ตอนที่รักษาครั้งแรก คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก เพราะผลตรวจสมองไม่ชัดเจน แต่พอตรวจครั้งที่ 2 หมอบอกว่า ก้านคอร้าวทำให้ขาไม่มีแรง โดยออกใบรับรองแพทย์มาให้หยุดพักรักษาตัว 1 ปี เลยทำให้ครอบครัวขาดรายได้ เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง แต่ลูกๆ ก็ห้ามไว้ วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ต้องขอกราบขอบคุณทุกคน.-สำนักข่าวไทย
 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง