รพ.ศิริราช ใช้ AI จีน ตรวจหาโควิด-19 รู้ผลภายใน 25 วินาที

กทม. 20 เม.ย. – โรงพยาบาลศิริราช ทดลองใช้ AI จีน ประมวลผลซีทีสแกนปอดติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ วิเคราะห์ผลได้เร็วภายใน 25 วินาที หลังจีนใช้ตรวจผู้ป่วยโควิด-19 มาแล้วกว่า 4,000 ราย


นี่เป็นความฉลาด “โซลูชัน” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้ามาช่วยแพทย์วินิจฉัยผลเอกซ์เรย์ปอด จากการทำซีทีสแกนของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาวิเคราะห์ผลเพียง 25 วินาทีต่อ 1 เคส ก็สามารถบอกได้เลยว่าผู้ป่วยรายนั้นๆ มีโอกาสเป็นโรคโควิด-19 กี่เปอร์เซ็นต์ เนื้อปอดข้างซ้ายและข้างขวาถูกทำลายไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ การวิเคราะห์ตามขั้นตอนปกติของรังสีแพทย์ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ภายในเวลารวดเร็วเช่นนี้


ระบบนี้เริ่มมีการทดลองใช้แล้วในโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี โดย “โซลูชัน” ผู้ช่วย AI จะนำผลเอกซ์เรย์ปอดของผู้ป่วยไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลในระบบที่เรียนรู้และจดจำมาจากการตรวจภาพเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วยโควิด-19 ในจีนกว่า 4,000 ราย เพื่อแยกแยะระหว่างจุดขาวพร่าในปอดจำนวนมาก กับการรวมตัวกันของเนื้อปอด แล้ววิเคราะห์ผลเชิงปริมาณออกมาว่าป่วยเป็นโควิดในระยะเริ่มต้น ลุกลาม หรือรุนแรง ช่วยลดเวลาในการวินิจฉัย แต่ด้วยลักษณะของเชื้อโควิด อาการ และพันธุกรรมของผู้ป่วยไทยและผู้ป่วยจีน ที่อาจแตกต่างกัน เพื่อความแม่นยำมากขึ้น รังสีแพทย์จึงต้องวินิจฉัยซ้ำอีกรอบ


ขณะนี้ในไทยยังใช้วิธีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยการเก็บสารคัดหลั่งจากหลังโพรงจมูกและคอ ไปตรวจสารพันธุกรรมของไวรัสด้วยวิธี Real-time RT PCR เป็นหลัก  

ส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยการทำซีทีสแกนปอด จะใช้เฉพาะในเคสผู้ป่วยทั่วไปที่อาจเข้าข่ายต้องสงสัยและต้องเข้ารับการผ่าตัดในช่วงนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดโดยไม่จำเป็น และใช้ในกรณีเคสผู้ป่วยที่มีความซับซ้อน หรือตรวจหาเชื้อจากสารคัดหลั่งแล้วหลายครั้ง แต่ผลก็ยังออกมาเป็นลบ ทั้งที่มีอาการหลายอย่างเข้าข่ายป่วยเป็นโรคโควิด-19

      

ในอนาคตหากในไทยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นพร้อมจำนวนมาก อาจต้องใช้วิธีซีทีแสกนปอดเข้ามาช่วยตรวจหาเชื้อ และวินิจฉัยผลเอกซ์เรย์ปอดโดยรังสีแพทย์ ซึ่งทั้งประเทศมีอยู่เพียง 1,000 คน อาจรับมือไม่ทัน ฉะนั้นการนำ “โซลูชัน” ผู้ช่วย AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ก็จะเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพบุคลากรทางแพทย์ รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง