เตรียมผ่อนปรนมาตรการ “โควิด-19” เปิดห้างฯ-ร้านตัดผม

สธ.20 เม.ย.-สธ.หารือผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 เล็งเปิดบริการร้านค้าต่างๆ ตามความเสี่ยงต่ำและปานกลาง ทั้งสวนสาธารณะ ร้านตัดผม ห้างสรรพสินค้า แต่ห้ามเปิดเด็ดขาด ผับ บาร์ คาราโอเกะ สนามมวย ต้นเดือน พ.ค.รวม 32 จังหวัด จากนั้นทยอยเปิดใน 38 จังหวัด ส่วน 7จังหวัด กทม. และปริมณฑล เปิดจังหวัดเป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะยังพบการระบาด 


นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  กล่าวภายหลังประชุมหารือแนวทางผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์รับมือโควิด-19 ว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา (20เม.ย.) ได้มีการหารือร่วมกับคณะแพทย์ฯจากสถาบันต่างๆ และมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยที่ประชุมเห็นตรงกันถึงการผ่อนปรนมาตรการเพื่อให้ประชาชนทั่วไป ภาคธุรกิจสามารถไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมาตรการที่ต้องคงไว้ไม่สามารถผ่อนปรนได้ ได้แก่ การตรวจคัดกรองประชาชน ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และผู้ที่เดินทางมาต้องอยู่ภายในภายที่กักตัวที่รัฐจัดหาให้ 14 วันตามที่รัฐกำหนด และทุกจังหวัดต้องมีการค้นหาผู้ติดเชื้อรายไม่ ในแออัดหนาแน่น  และเพิ่มความเข้มข้นเรื่องการตรวจแล็บ ซึ่งมาตรการนี้ต้องไม่หย่อนยานเด็ดขาด 

นพ.คำนวณ กล่าวว่า มาตรการที่ประชาชนต้องปฏิบัติตัวอย่างสม่ำเสมอ คือการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างเหมือนเดิม งดการชุมนุม เพื่อไม่ให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  ส่วนการดำเนินงานของภาคธุรกิจ ได้มีการหารือ และทราบว่าขณะนี้มีประชาชน 7-10 ล้านคนประสบปัญหาตกงาน ได้มีการประเมินร่วมกัน และผ่อนปรนเพื่อให้การดำเนินงานสามารถกลับมาทำได้ตามปกติ โดยปรับตามความเสี่ยง และความหนาแน่นในพื้นที่ของสถานประกอบการ แบ่งเป็นเสี่ยง สูง เสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำ  ส่วนกิจการที่ต้องหยุดดำเนินต่อ เนื่องจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ได้แก่ สถานบันเทิงผับ บาร์คลับ คาราโอเกะ อาบอบนวด สนามมวย ที่มีการพนันแข่งขัน กู่ร้อง ตะโกน เป็นผลมาจากข้อมูลการแพร่ระบาดของโรค  ที่เป็นต้นตอของการเพิ่มจำนวนผู้ป่วย 


นพ.คำนวณ กล่าวต่อไปว่า ต่อไปในอนาคตการพิจารณาปิดสถานที่ จะ ไม่ทำแบบครอบจักรวาล ขยายเหมือนกันหมดทุกพื้นที่ ทั้งประเทศ  77 จังหวัด แต่จะพิจารณาบางพื้นที่ และมีการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์เฉพาะในพื้นที่ที่เกิดปัญหา เพื่อเป็นการชะลอไม่ให้กลับมาแพร่ระบาดซ้ำอีก  โดยพิจารณาใช้ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข  จากวันที่ 14เมษายน  พบว่า ในพื้นที่ 32 จังหวัด ไม่มีการระบาดมานาน 2 สัปดาห์ ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อระดับต่ำ กลุ่มนี้จะสามารถผ่อนปรนมาตรการได้ก่อน เริ่มดำเนินการต้นเดือนพฤษภาคม จากนั้นหาก 2 สัปดาห์ สถานการณ์ดีก็พิจารณา เพิ่มจังหวัดที่มีการติดเชื้อประปรายในรอบ 2 สปัดาห์ อีก 38 จังหวัดให้เปิดดำเนินการได้ปกติ คาดว่ากลุ่มนี้ดำเนินการได้กลางเดือนพฤษภาคม  

ส่วนที่เหลืออีก 7 จังหวัด ที่พบการติดเชื้อต่อ เนื่อง แต่ไม่มีการระบาดใหญ่ คาดว่าจะสามารถผ่อนปรนเปิดจังหวัดได้ ประมาณต้นเดือนมิถุนายน แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง  เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดใหม่ในระลอก 2-3  หากประชาชนและภาคธุรกิจ ร่วมมือกันปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้เกิดความสมดุลต่อการใช้ชีวิต  ความปลอดภัย ธุรกิจก็เดินหน้า ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนไปเพื่อความปลอดภัย ภาคธุรกิจก็จะนำแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณา ปรับให้เหมาะสม พิจารณาจากสถานที่ ห้องเล็กแคบหรือแออัด ความถ่ายเทของอากาศ เช่น ร้านอาหารจัดโต๊ะให้มีระยะห่าง ร้านตัดผมจัดทำเวลานัดมาตัดผม ไม่อนุญาตให้คนเข้าไปรอที่ร้าน 

สำหรับห้างสรรพสินค้า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงปานกลาง การเข้าไปทำกิจกรรมในห้างร้าน ต้องมีการตรวจคัดกรองหน้าทางเข้า วัดอุณหภูมิและกำหนดระยะเวลา การใช้บริการและจำนวนที่เข้า ห้องน้ำภายในห้างต้องไม่รอคิว ทำแอปพลิเคชัน บันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการในห้างและให้ข้อมูลกับประชาชน ขณะเดียวก็สามารถบอกได้ว่ามาใช้บริการอะไร สิ่งสำคัญห้ามจัดนาทีทอง โปรโมชั่นอย่างเด็ดขาด 


ส่วนสวนสาธารณะ คาดว่าเป็นสิ่งแรกที่สามารถกลับมาดำเนินการได้เพราะเสี่ยงต่ำ แต่การออกำลังต้องไม่จับกลุ่มชุมชน  เช่น การออกกำลังกายทำได้ แต่ต้องไม่จับกลุ่มกินน้ำชากันต่อ ส่วนในเด็กนักเรียน ที่เลื่อนการเปิดภาคเรียนไปเดือนกรกฎาคม นั้น ก็ต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีการติดเครื่องปรับอากาศ  ต้องมีการจัดโต๊ะและระยะห่าง 

นพ.คำนวณ กล่าวด้วยว่า กรอบแนวคิดรูปแบบต่างๆนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะได้นำไปเสนอที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต่อไป 

สำหรับ 32 จังหวัดนำร่องแรก ได้แก่ จ.น่าน กำแพงเพชร พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท บึงกาฬ ตราด ระนอง จันทรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่  มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สุโขทัย อุทัยธานี กาพสินธุ์ ชัยภูมิ นครนายก นครพนม พังงา สกลนคร สตูล หนองบัวลาภู อำนาจเจริญ อุดรธานี พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระบุรี

ส่วน 38 จังหวัดที่เหลือเปิดในรอบ 2 กลางเดือนพฤษภาคม ได้แก่  ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี เชียงใหม่ นราธิวาส กระบี่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ชุมพร เชียงราย ตรัง ตาก นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราซ นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง เพชรบุรี ระยอง ราชบุรี  ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สงขลา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุราษภร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี

ส่วน 7 จังหวัดที่ยังพบผู้ป่วย และจะสามารถผ่อนปรนเปิดทำการเป็นกลุ่มสุดท้าย ต้นมิถุนายนได้แก่ กทม. ชลบุรี นนทบุรี ภูเกีต สมุทรปราการ  ปัตตานี ยะลา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]