ศบค.ยันยังไม่เคอร์ฟิว24ชม. ขณะป่วยเพิ่ม 51 ตาย3

ทำเนียบรัฐบาล 6 เม.ย.-โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 พบผู้ป่วยใหม่ 51 ราย ผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,220 ราย เสียชีวิตรวม 26 ราย พบ 1 ราย อายุเพียง 28 ปี ถือว่าน้อยสุดและไม่มีโรคประจำตัว ยืนยันยังไม่เคอร์ฟิว24ชั่วโมง


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวันนี้ (6 เม.ย.) ว่า ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 51 ราย พบใน 66 จังหวัด รวมผู้ป่วย 2,220 ราย หายป่วยแล้ว 793 ราย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวม 26 คน แต่ขออย่าเพิ่งดีใจ เพราะบางส่วนมีกรณีที่รอการสอบสวนของโรคทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายไทย อายุ 28 ปี เพื่อนร่วมงานภรรยาติดโควิด-19 ป่วยมีอาการไข้สูง ไอ เจ็บคอ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ ผู้เสียชีวิตรายที่สอง เป็นชายไทย อายุ 51 ปี มีภาวะอ้วน มีอาการปอดอักเสบรุนแรง และผู้เสียชีวิต รายที่ 3 หญิงไทย อายุ 59 ปี เป็นนักพนัน เดินสายเล่นการพนันใน กทม. พบเจอผู้คนจำนวนมาก รักษาตัวในโรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร มีอาการปอดอักเสบรุนแรงและหืดหอบ โดยทั้ง 3 รายที่เสียชีวิต ไม่มีใครรู้ตัวว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่มารู้ในภายหลังซึ่งอาการหนักแล้ว 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าในจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 51 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 25 ราย เป็นพิธีกรรมทางศาสนา 3 ราย และสัมผัสผู้ป่วยยืนยันใกล้ชิด 22 ราย ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ ผู้ป่วยอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 19 ราย อาทิ คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย สัมผัสผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 1 ราย เป็นอาชีพเสี่ยงที่ทำงานในสถานที่แออัดหรือใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 3 ราย บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข 13 ราย และกลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 7 ราย สำหรับผู้ป่วยใหม่ทั้ง 51 ราย อยู่ใน กรุงเทพมหานครสูงสุด 27 ราย รองลงมา นนทบุรีและภูเก็ตจังหวัดละ 4 ราย ชลบุรี 3 ราย สมุทรปราการ ยะลา สุราษฎร์ธานี พัทลุงจังหวัดละ 2 ราย ปัตตานี ปทุมธานี อุบลราชธานี นราธิวาส และสระแก้ว จังหวัดละ1 ราย


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าสำหรับผู้ป่วยสะสมทั้ง 2,220 คน ใน 66 จังหวัด  10 อันดับสูงสุดของจังหวัดที่พบผู้ป่วยคือ กรุงเทพหานคร 1,051 ราย นนทบุรี 143 ราย ภูเก็ต 135 ราย สมุทรปราการ 103 ราย ชลบุรี 66 ราย ยะลา 54 ราย ปัตตานี 46 ราย สงขลา 37 ราย เชียงใหม่ 37 ราย ปทุมธานี 28 ราย อยู่ระหว่างสอบสวน 173 ราย โดยกลุ่มอายุ 20-29 ปี พบการติดเชื้อมากที่สุดในจำนวน 539 ราย อัตราส่วนหญิง : ชาย คือ 1 : 1.25 ทั้งนี้ ยังคงชื่นชม 11 จังหวัดที่ยังไม่มีการรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ  ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และอ่างทอง 

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังวิเคราะห์ว่า การติดเชื้อภายในประเทศในระยะเวลา 7 วันล่าสุด  ในส่วนของ กทม.มีแนวโน้มลดลง ส่วนต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ขณะที่การติดเชื้อจากต่างประเทศใน 7 วันล่าสุดนั้น ต่างชาติไม่เกิน 10 รายต่อวัน ส่วนใหญ่มาจากยุโรป คนไทย 10-25 รายต่อวันจากยุโรป  ปากีสถาน  และอินโดนีเซีย  (ดาวะห์) 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า  สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้  สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด  336,327 ราย เสียชีวิต 9,605 ราย รองลงมาคือสเปน มีผู้ติดเชื้อ 131,646 ราย เสียชีวิต 12,641 ราย และอิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 128,948 ราย เสียชีวิต 15,887 ราย โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 39


นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการประกาศเคอร์ฟิวเวลา 22.00-04.00 น.ว่า ในคืนวันที่ 5-6 เมษายน ได้ตั้งจุดตรวจจำนวน 836 จุด พบการกระทำผิดไม่มีเหตุผลในการเดินทาง 919 คน นอกจากนี้ยังพบการรวมกลุ่มมั่วสุม เช่น การดื่มสุรา การเสพยาเสพติด จำนวน 79 คน โดยทั้งหมด มีการตักเตือน 315 คน ดำเนินคดี 708 คน อย่างไรก็ตาม วันนี้(6เม.ย.)จะเพิ่มจุดตรวจเป็น 923 จุด จึงขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาดูแลและเพิ่มการตรวจสอบให้

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงคนไทยที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศระหว่างรอ หลังการบินพลเรือน สั่งห้ามเครื่องบินลงจอด สนามบินในไทยถึงคืนนี้ (6 เม.ย.) ว่า ทางสถานทูตได้สำรวจแล้วมีประมาณ 48 คน อยู่ที่ญี่ปุ่น 12 คน โซล 35 คน เนเธอร์แลนด์ 1 คน ซึ่งสถานทูตรับไปดูแลอย่างดี แต่ยอมรับว่า อาจจะไม่สะดวกสบาย และหากในวันพรุ่งนี้(7เม.ย.) มีการเปิดให้กลับมาบินได้ตามปกติ ก็สามารถเดินทางกลับได้ ขณะเดียวกันวันนี้ (6 เม.ย.) จะมีคนไทยกลับจากอินโดนีเซีย 111 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ขออนุญาตไว้ล่วงหน้าแล้ว โดย ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อม และจะพาคนเหล่านี้ไปยังสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ อย่างไรก็ตาม คาดว่า หลังจากนี้จะมีคนไทยเดินทางกลับประเทศอีกจำนวนมาก รัฐบาลก็จะพยายามดูแลและควบคุมสถานการณ์ จึงขอความร่วมมือให้คนไทยในต่างประเทศติดต่อสถานทูตเพื่อแจ้งจำนวน คนไทยที่จะเดินทางกลับมา เพื่อประเทศไทยที่จะได้เตรียมการรองรับในการพาไปยังสถานที่กักตัวโดยรัฐ  และย้ำว่า ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการ โดยการกักตัวที่ต้นทาง 14 วันและมีใบรับรองแพทย์  และเมื่อมาถึงก็ต้องกักตัวที่ประเทศในสถานที่กักกันของรัฐ 14 วัน 

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงตามกระแสข่าวลือตามโซเชียลแต่อย่างใด ซึ่งหากตัวเลขลดลง ก็ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่ม แต่หากตัวเลขไม่ลดลงก็จะมีมาตรการเพิ่ม ส่วนที่มีการแชร์เอกสารกันออกไปเป็นการสื่อสารไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น ก็เป็นข้อมูลธรรมดาที่แปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ใช้คำว่า “เตรียมการยกระดับ” ซึ่งเป็นการใช้คำที่ถูกต้อง ยืนยันว่า นโยบายนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง ย้ำว่า การนำเสนอข่าวไม่เป็นจริงในช่วงที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นจะมีโทษ จึงขอให้ฟังการแถลงข่าวของศูนย์เท่านั้น ขออย่าแชร์และอย่าเชื่อข่าวเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง

ส่วนการจัดหาหน้ากาก n95 ที่มีความกังวลว่าจะได้หน้ากากที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจำนวนมากว่ามีการหลอกขาย เมื่อทุกคนต้องการใช้ และต้องการซื้อมาบริจาค ขอให้สอบถามรายละเอียดผู้ที่จำเป็นต้องใช้ก่อนว่า เป็นหน้ากากที่สามารถใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะหน้ากากบางชนิดมีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับหน้ากาก n95 แต่ไม่สามารถใช้ได้จริง ดังนั้น หากจะบริจาคอะไรขอให้ติดต่อกับทางการแพทย์ หรือโรงพยาบาลก่อน และปล่อยให้บรรดาผู้ค้าที่ขายหน้ากากไม่มีมาตรฐานเกิดความเสียหายไป 

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการใช้พลาสมาของผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 ว่า ผู้ที่หายจากการติดเชื้อย่อมมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากพลาสมาในการยับยั้งผู้ที่ติดเชื้ออยู่ได้ โดยบางรายก็ประสบความสำเร็จ บางรายก็ยังต้องใช้องค์ประกอบอื่น ดังนั้น หากผู้ที่หายจากการติดเชื้อแล้วให้ความร่วมมือก็เป็นเรื่องที่ดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระทงใหญ่ยี่เป็ง

ชมความงามกระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ ยี่เป็งเชียงใหม่

ที่เชียงใหม่ยังมีประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง โดยเฉพาะค่ำคืนนี้ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดของงานทุกปี นั่นคือขบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปีนี้มีเกือบ 30 ขบวน แต่ละขบวนล้วนตกแต่งได้อย่างสวยงาม

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี