มอสโก 9 ธ.ค.- ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียและครอบครัว เดินทางถึงกรุงมอสโก โดยรัสเซียให้ลี้ภัยอยู่ในประเทศ หลังจากต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ช่วงที่กลุ่มกบฏบุกยึดกรุงดามัสกัสเมื่อวานนี้
เว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์รายงานว่า เครื่องบินทหารของรัสเซียขึ้นบินเดินทางออกจากเมืองท่าลาตาเกียของซีเรีย มุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้แน่ชัดว่าใครอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ต่อมา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า ประธานาธิบดีอัล-อัสซาดได้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำซีเรียและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว หลังจากสั่งการให้มีการส่งผ่านอำนาจโดยสันติ
สื่อรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวจากทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียที่ยืนยันว่า ผู้นำซีเรียและครอบครัว เดินทางถึงกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยเข้าอยู่ในรัสเซียด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม เป็นการยืนยันว่า การปกครองซีเรียยาวนาน 24 ปีของนายอัล-อัสซาด ได้จบลงแล้ว และปิดฉากการปกครองของตระกูลอัล-อัสซาดที่ดำเนินมานาน 50 ปี นับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี ฮาเฟซ อัล-อัสซาด ผู้เป็นบิดา
ส่วนที่มัสยิดกลางอุมัยยะห์ ในกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งโลก ฝูงชนรุมล้อมและต้อนรับอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้นำกองกำลังฮายอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม หรือเอชทีเอส (HTS) แกนนำกลุ่มกบฏซีเรียที่นำกำลังบุกโจมตีเข้ายึดเมืองต่าง ๆ ทั่วซีเรีย รวมถึงกรุงดามัสกัสได้ภายในเวลา 11 วัน หลังจากเริ่มปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน นายอัล-โจลานีกล่าวว่า ชัยชนะของฝ่ายกบฏคือจุดเปลี่ยนของภูมิภาค และกล่าวหาอัล-อัสซาดว่า ส่งมอบซีเรียให้กับความทะเยอทะยานของอิหร่าน เผยแพร่ระบอบแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและการทุจริต
ขณะเดียวกันชาวซีเรียจำนวนมากพากันเดินเข้าไปภายในทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงดามัสกัส หลายคนเดินออกมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของและทรัพย์สิน หลังจากกลุ่มกบฏบุกเข้าถึงกรุงดามัสกัสและประธานาธิบดีอัล-อัสซาดลาออกและเดินทางออกนอกประเทศ ด้านเอชทีเอประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในกรุงดามัสกัสตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันอาทิตย์จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น.-815(814).-สำนักข่าวไทย