เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 38 ราย

ภูมิภาค 5 เม.ย. – เชียงใหม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายสูงอายุชาวเนเธอร์แลนด์ เร่งเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิด 8 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมของเชียงใหม่เพิ่มเป็น 38 คน ส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย รวมเป็น 17 ราย

นายแพทย์ศิริพจน์ ศรีบัณฑิตกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส โรงพยาบาลนครพิงค์ แถลงยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายล่าสุดที่พบเป็นชายสูงอายุชาวเนเธอร์แลนด์ วัย 72 ปี ซึ่งเดินทางกลับจากเนเธอร์แลนด์มายังเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม เริ่มป่วยและเข้ารักษาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม แต่จากการสอบสวนโรคผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งข้อเข้าเสื่อม ตับแข็ง หัวใจโต ช่วงที่อยู่เนเธอร์แลนด์มีความเสี่ยงจากเพื่อนชาวสเปนที่เดินทางมาเยี่ยม แต่หลังจากเดินทางถึงเชียงใหม่ กักตัวอยู่ที่บ้าน จึงมีเพียงภรรยาชาวไทยที่เป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน และมีญาติของฝั่งภรรยาที่สัมผัสใกล้ชิดอีก 7 คน ซึ่งอยู่ในการเฝ้าระวังโรคทั้งหมดแล้ว ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมที่เชียงใหม่เพิ่มเป็น 38 ราย กลับบ้านได้แล้ว 7 ราย ที่เหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และมียอดผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 775 ราย ในจำนวนนี้กลับบ้านแล้ว 674 ราย ยังรักษาและรอดูอาการที่โรงพยาบาลอีกราว 100 ราย

นายคมสัน ไชยวรรณ์  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถลงว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดิมมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 14 ราย  แต่ถึงวันที่ 5 เมษายน พบรายใหม่ 3 ราย ทำให้ยอดสะสมเป็น 17 ราย อยู่ในระหว่างรักษา 8 ราย รักษาหาย 7 ราย เสียชีวิต 2 ราย รายแรกที่เดินทางโดยรถไฟและมาเสียชีวิตที่ทับสะแก และรายใหม่ 1 ราย เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ เพศชาย อายุ 82 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด วันที่ 14 มีนาคม ได้เดินทางไปพักที่โรงแรมในกรุงเทพฯ ไปเที่ยวที่บาร์ ร้านอาหาร วันที่ 15 มีการจัดปาตี้ที่บ้าน มีผู้ร่วมรับประทาน 23 คน
กระทั่งวันที่ 22 มีนาคม ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ วันที่ 31 มีนาคม ไข้สูง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ในโรงพยาบาลหัวหิน ทางโรงพยาบาลส่งไปโรงพยาบาลเอกชนเพชรบุรี และได้รับทราบว่าเสียชีวิตในวันที่ 2 เมษายน ขณะนี้ได้ติดตามผู้สัมผัสในพื้นที่มีทั้งหมด 4 คน คือภรรยา พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้รักษาอยู่โรงพยาบาลเอกชน ส่วนบุตรบุญธรรม 1 คน พยาบาล 1 คน ไม่พบ และพยาบาลประจำตัว ผลยังไม่ออกมา และได้ติดตามฆ่าเชื้อในพื้นที่ตามระบบ เพื่อป้องกันการระบาดแล้ว  


นอกจากนี้มีชาวเชียงใหม่มาจัดปาตี้ที่อำเภอชะอำ ในวันที่ 19-20 มีนาคม จ้างพริตตี้ 6 คน ไปชงเหล้า เมื่อกลับไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ติดตามผู้ร่วมทั้งหมด พบหญิงวัย 36 ปี ชาวปากน้ำปราณบุรี ติดเชื้อโควิด-19 และหญิงคนดังกล่าวได้รับงานที่หัวหินในวันที่ 21 มีนาคม และวันที่ 1 เมษายน ได้ไปนั่งกินหมูย่างกับญาติ 7 คน จากการติดตามผลไม่พบเชื้อ แต่ยังคงติดตามผลต่อไป     

ที่จังหวัดกระบี่  หญิง อายุ 33 ปี  มีสามีเป็นชาวเยอรมัน และได้ไปทำงานอยู่ที่ป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต และได้กลับมาบ้านตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เริ่มมีอาการป่วย เมื่อมาถึงจังหวัดกระบี่ ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลกระบี่ ผลการตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จึงได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่ยังมีคนในครอบครัวที่ใกล้ชิด สัมผัสผู้ป่วยรายดังกล่าวหลายรายที่ต้องเฝ้าระวัง

ในวันนี้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ได้รับแจ้งจากพ่อหญิงคนดังกล่าวให้ช่วยประสานรถฉุกเฉินมารับตนเอง ภรรยา ลูก และหลานอีก 2 คน รวมทั้งหมด 4 คน ไปตรวจที่โรงพยาบาลกระบี่ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา หลาน 2 คนที่เป็นลูกสาวของหญิงคนดังกล่าว มีอาการตัวร้อนและร้องให้ทั้งคืน จะอาศัยเพื่อนบ้านให้ไปส่งที่โรงพยาบาลกระบี่ก็ไม่มีใครกล้าไป พยายามให้ติดต่อรถฉุกเฉินมารับ แต่การติดต่อประสานงานไปยังหน่วยงานทางราชการก็ยากลำบาก จะไปเองก็ไม่ได้ เพราะมีเด็กเล็กๆ อยู่ด้วย ตนเองมีความรู้สึกหนักใจมากๆ


อย่างไรก็ตาม ได้ประสานให้รถจากโรงพยาบาลกระบี่มารับคนในครอบครัวทั้ง 4 คน ไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ที่เป็นปัญหายังอยู่ที่บ้านอีก 5 คน จะทำกันอย่างไร ทั้งหมดในครอบครัวนี้มีแนวโน้มติดเชื้อโควิด-19 สูงมาก หากทุกคนถูกกักตัวไม่ให้ออกจากบ้าน หัวหน้าครอบครัวก็ขาดรายได้ ระยะเวลา 14 วัน จะเอาอะไรกิน ตอนนี้ตนเอง และประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม และเพื่อนบ้าน ต้องช่วยกันบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง คนละเล็กคนละน้อยเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน

สาธารณสุขจังหวัดสกลนครเปิดเผยข้อมูลขณะนี้มีผู้เข้ากักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน มากถึง 12,929 ราย เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ 146 ราย รู้ผลแล้วไม่พบเชื้อ 138 ราย รอผลตรวจอีก 7 ราย มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย ซึ่งเป็นหญิงสาววัย 21 ปี ชาวบ้านดงสง่า อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร กลับมาจากจังหวัดภูเก็ต โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเองในพื้นที่หมู่บ้านดงสง่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเฉพาะร้านขายของชำและที่พักอาศัยกลางสวนยางพารา ซึ่งห่างจากหมู่บ้านดงสง่าประมาณ 5 กิโลเมตร อาศัยอยู่ร่วมกับพ่อแม่ ยาย และลูกชายวัย 5 ขวบ โดยสั่งกักตัวดูอาการทั้ง 4 ราย ขณะนี้หญิงสาววัย 21 ปี ได้เข้ารับการรักษาในพื้นที่หวงห้ามภายในโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร โดยการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และยังไม่สั่งปิดหมู่บ้าน ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย