กรุงเทพฯ 11 มี.ค. – อธิบดีกรมป่าไม้สั่งตรวจสอบที่ดิน “แม่ธนาธร” อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ในส่วนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์กรมที่ดินเพิ่มพรุ่งนี้ ส่วนเอกสารที่นำมาแสดงสิทธิ์ถือครองพื้นที่ 3,098 ไร่ ตรวจไปก่อนหน้านี้ ทางกรมที่ดินกำลังตรวจสอบว่าได้มาโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สั่งการให้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีเข้าตรวจสอบที่ดินนางสมพร จึงุร่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพิ่มเติมจากที่ตรวจสอบรังวัดไปแล้วครั้งหนึ่งตามการนำชี้ของผู้แทนนางสมพร ซึ่งปรากฏว่าครอบครองพื้นที่ 3,098 ไร่ 1 งาน 27.3 ตาราวา โดยผู้ถือครองให้ผู้แทนนำเอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดินมาแสดงเป็นสำเนาเอกสารตามกฎหมายที่ดิน 77 แปลง ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 43 ไร่ 64.3 ตารางวา น.ส.3 ก 55 แปลง เนื้อที่ 2,012 ไร่ 2 งาน น.ส.3 จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ 694 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา และ น.ส.2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่
ทั้งนี้ ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีประสานฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชนมาร่วมตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งวันพุร่งนี้ (12 มีนาคม) ตามที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือที่กรมป่าไม้ ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ขอให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามกฎหมายต่อนางสมพร ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และเคยครอบครองที่ดินประเภท ภ.บ.ท. 5 และ น.ส. 2 แม้ปัจจุบันส่งมอบให้ชุมชน แต่ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งยังมีการตัดต้นไม้หลายไร่ในที่ดินดังกล่าว โดยศูนย์ป่าไม้ราชบุรีจะตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียงกับที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ส่วนกรณีที่ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีแจ้งความต่อตำรวจ สภ.สวนผึ้ง เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ว่า พบการบุกรุกถือครองพื้นที่ป่าที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง 5 แปลง เนื้อที่รวม 392 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา ซึ่งนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น (คปต.) ร้องทุกข์กล่าวโทษนายทวี ไกรคุปต์ บิดาน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐต่อตำรวจ สภ.สวนผึ้งไว้นั้น เจ้าหน้าที่พบโรงเลื่อยไม้ในพื้นที่ป่าไม้ จึงแจ้งความฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 84 ทั้งนี้ ต้องร่วมกับพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานว่า ใครคือผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดบ้าง เพื่อจับกุมและดำเนินคดี สำหรับจระเข้ในบ่อเลี้ยง 3 บ่อ ไม่ได้ตรวจยึดเป็นของกลางในคดี เพราะมิใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เป็นการกระทำความผิด แต่การที่ผู้ครอบครองจระเข้จะเข้าไปให้อาหารนั้น ต้องขออนุญาตต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น จะมีการเข้าไปให้อาหารหรือผู้ใดเป็นคนเข้าไปต้องสอบถามจากพนักงานสอบสวน