fbpx

กรมป่าไม้ชี้ชัดที่ดิน “แม่ธนาธร” อยู่ในเขต ส.ป.ก.

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – อธิบดีกรมป่าไม้ระบุที่ดิน “แม่ธนาธร” อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 3,000 ไร่ อยู่ในเขต ส.ป.ก. เกือบทั้งหมด ส่วนเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดินให้ผู้แทนนำมาชี้แจงสิทธิ์ครอบครอง เร่งประสานกรมที่ดินตรวจสอบว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ ลั่นหากพบการกระทำผิดจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดเช่นเดียวกับทุกกรณี


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงผลการตรวจสอบรังวัดแนวเขตที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในเขต อ.จอมบึง พบว่าเนื้อที่ 3,098 ไร่  1 งาน 27.3 ตาราวา ตามการนำชี้และตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย น.ส.อรสา เศรษฐปราโมทย์ เป็นผู้แทนนางสมพร พร้อมกันนี้ น.ส.อรสา ได้นำเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ด้วยเป็นนำสำเนาเอกสารตามกฎหมายที่ดิน 77 แปลง ประกอบด้วย โฉนดที่ดินจำนวน 1 แปลง นส.3ก จำนวน 55 แปลง นส.3 จำนวน 14 แปลง และ นส.2 จำนวน 7 แปลง ทั้งนี้ เมื่อนำค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ของจุดที่นำชี้มาขึ้นรูปแปลงที่ดินแล้ว 

เบื้องต้นพบว่า พื้นที่ประมาณ 3,055 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 98.5 อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (พ.ศ 2554)  ซึ่งรับผิดชอบโดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มีเพียงประมาณ 43 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 1.5 ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (พ.ศ. 2527) และเขตป่าไม้ถาวร แปลงหมายเลข 85 (พ.ศ.2512) โดยได้แจ้งให้ผู้แทนนางสมพรทราบแล้ว 


ขณะนี้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีได้ประสานสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี กรมที่ดินมาร่วมตรวจสอบความถูกต้องของตำแหน่งและรูปแปลงที่ดินตามที่นำชี้เปรียบเทียบกับเอกสารที่ดินที่มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งขอให้ตรวจสอบเอกสารที่ดินดังกล่าวว่า ออกโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ เป็นการออกก่อนหรือหลังการสงวนหวงห้ามเป็นที่ดินของรัฐ  หากพบการกระทำผิดจะประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด

“ขณะนี้ยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดิน อีกทั้งผู้แทนนางสมพร ยังได้นำชี้ที่ดินนอกแปลงตามเอกสารสิทธิ์และพื้นที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ประเภท ภ.บ.ท. 5 หากตรวจพบร่องรอยการถือครองทำประโยชน์จะตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นมาตรฐานเดียวกับทุกราย” นายอรรถพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย