กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – นายกรัฐมนตรีส่งความห่วงใยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าทำงานหนัก เนื่องจากมีการลักลอกเผาป่าและพื้นที่เกษตรลุกลามสู่ผืนป่าหลายแห่ง ย้ำกระทรวงทรัพยากรฯ กำหนดมาตรการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมไฟป่าเร็วที่สุด ลดความสูญเสียต่อทรัพยากรธรรมชาติ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว่า ได้รับมอบหมายจากนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและส่งกำลังใจมาให้เนื่องจากช่วงนี้มีไฟป่าเกิดขึ้นกระจายหลายพื้นที่ทำให้ทุกคนต้องทำงานหนัก ตลอดจนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าทุกคนที่เสียสละมาโดยตลอด
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า เดินทางมาตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ในภาคเหนือซึ่งพบการเกิดไฟป่ามากที่สุด ขณะนี้เกิดกระจายในทุกพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่า โดยเฉพาะที่ทำกินบนดอยยังพบการเผาป่าเพื่อใช้เป็นที่ทำกินและเผาในที่ทำกินซึ่งอยู่ใกล้ป่า แล้วลุกลามเข้าไปในป่า ล่าสุดเกิดไฟป่าบริเวณห้วยตึงเฒ่าและตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่จึงระดมชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟจากทั่วประเทศหมุนเวียนกันมาดับไฟป่าเพื่อลดความสูญเสียของทรัพยากรธรรมชาติ ความเสียหายต่อระบบนิเวศ ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
ทั้งนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ มอบหมายให้นายดุลย์ฤทธิ์ ฤทัยวรุณรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า (สปฟ.) จัดให้มีการหมุนเวียนกำลังพลในการเข้าไปดับไฟเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ประกอบขณะนี้อยู่ในช่วงของการระบาดเชื้อ COVID-19 จึงจำเป็นต้องดูแลและรักษาสุขภาพให้ดีเนื่องจากมีหน้าที่รักษาทรัพยากรป่าไม้ของประทศและป้องกันทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนไม่ให้เกิดความเสียหาย นอกจานี้ได้สั่งการประสานการปฏิบัติงานกับทางจังหวัดเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้มีการบุกรุกพื้นที่หลังเกิดไฟไหม้โดยเด็ดขาด อีกทั้งได้รับรายงานว่า ทางจังหวัดกำชับผู้นำท้องถิ่นในระดับตำบลและหมู่บ้านให้ดูแลพื้นที่ในความรับผิดชอบไม่ให้เกิดไฟไหม้ โดยทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอาสาสมัครพร้อมสนับสนุนเต้มที่ รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบจุดไฟเผซึ่งจะมั่นใจว่า จะช่วยควบคุมพื้นที่และสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น
นายอิศเรศ จิรารัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลาง กล่าวว่า ขณะนี้มีไฟไหม้ป่าหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และตาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดและดับเร็วที่สุด ทุกคนมีอาการแน่นหน้าอก เนื่องจากสูดควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าไป ล่าสุดอธิบดีกรมป่าไม้ได้นำหน้ากากอนามัยมามอบให้เพิ่มเติม โดยต้องเป็นหน้ากากที่มีพื้นที่สำหรับหายใจเพราะหากหน้ากากแนบกับใบหน้า เมื่อเข้าดับไฟ อุณหภูมิที่สูงจะทำให้เหงื่อออกและหายใจไม่สะดวก ส่วนการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 จึงมีคำสั่งให้กระจายที่พัก จากเดินเจ้าหน้าที่ที่เข้าดับไฟจะพักค้างแรมในจุดเดียวกัน ก็ให้แยกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ล่าสุดได้รับแอลกอฮอล์สำหรับฉีดพ่นทำความสะอาดมือและอุปกรณ์เนื่องจากการปฏิบัติงานในป่า ไม่สะดวกที่จะล้างมือด้วยสบู่ ซึ่งความห่วงใยที่นายกรัฐมนตรีส่งมาถึงนั้นทำให้ทุกคนมีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างยิ่ง.-สำนักข่าวไทย