กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – รมว.ทส. สั่งอุทยานฯ-ป่าไม้ บูรณาการทุกภาคส่วน ระดมกำลังดับไฟป่าเต็มที่ หลังไฟป่าเกิดขึ้นหลายพื้นที่ภาคเหนือ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างเต็มที่ พร้อมประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครองและชุมชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการควบคุมไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าในภาคเหนือได้ขยายวงกว้างและมีความรุนแรงมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 30 มีนาคม 2568 พบจุดความร้อนทั่วประเทศ 87,249 จุด โดยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มี 24,222 จุด ลดลง 15.71% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ส่วนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมี 26,085 จุด และนอกพื้นที่ป่าอีก 36,942 จุด
วันนี้ (30 มีนาคม 2568) รอบเช้าพบจุดความร้อนทั่วประเทศ 830 จุด อยู่ในป่าอนุรักษ์ 512 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 525 จุด และนอกพื้นที่ป่า 66 จุด โดยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1) อุทยานแห่งชาติสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน 48 จุด 2) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน 30 จุด 3) อุทยานแห่งชาติ แม่ปืม จ.เชียงราย 23 จุด 4) อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง 21 จุด และ 5) อุทยานแห่งชาติแม่สุรินทร์ จ.แม่ฮ่องสอน 20 จุด
กรมอุทยานฯ ได้กำหนดพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงวันที่ 1 – 15 เมษายน 2568 ประกอบด้วย 1) อุทยานแห่งชาติสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน 2) อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.เชียงใหม่ ลำพูน ตาก (3) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย จ.แม่ฮ่องสอน 4) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน และ 5) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ รมว.ทส.ได้สั่งการให้ทุก War Room เร่งยกระดับการป้องกันและควบคุมไฟป่าขั้นสูงสุด พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายชุมชน และองค์กรเอกชน โดยจัดตั้งจุดเฝ้าระวังทั่วประเทศ 3,895 จุด ทำการลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิงรุกแบบ “เคาะประตูบ้าน” เพื่อสร้างความตระหนักถึงอันตราย จากไฟป่าและผลกระทบต่อปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จำนวน 2,527 ชุมชน 56,478 ครัวเรือน พร้อมทั้งดำเนินคดีต่อผู้ลักลอบเผาป่าตามกฎหมาย ภายใต้นโยบาย “เผาจริง จับจริง” เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น และขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาในทุกพื้นที่ หากพบเห็นการ ลักลอบเผาป่า แจ้งได้ที่โทร 1362 สายด่วนพิทักษ์ป่า ตลอด 24 ชั่วโมง. 512 – สำนักข่าวไทย