สธ.7 มี.ค.-สธ.เผยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย เป็นกลุ่มผู้ไปดูงานที่อิตาลี ขณะที่สายด่วนกรมควบคุมโรคประชาชนสอบถามข้อมูลโรค ทะลุ 2 พันสายต่อวัน
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) เปิดเผยว่า วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มเติมที่ติดเชื้อโคโรนา 2019 อีก 2 ราย
รายที่ 1 ชายไทย อายุ 40 ปี เดินทางกลับมาจากการดูงานที่ประเทศอิตาลี เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ขณะนี้รักษาตัว รพ.ราชวิถี มีผู้สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวรวม 4 คนซึ่งขณะนี้ยังไม่พบอาการป่วยและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยังคงเป็นลบไม่พบเชื้อโคโรนา แต่ยังคงต้องให้กักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน
รายที่ 2 ชายไทยอายุ 40 ปีเดินทางมาดูงานที่ประเทศอิตาลีเช่นเดียวกัน ขณะนี้ได้รับการรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลนพรัตราชธานี ส่วนในรายนี้ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิด
โดยทั้ง2 รายใหม่มีความเกี่ยวข้องกับชายไทยอายุ 42 ปี ผู้ติดเชื้อรายที่ 45 ที่สธ.แถลงไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เดินทางไปดูงานที่ประเทศอิตาลี โดยมีทั้งหมด 6 คน ขณะนี้พบว่าติดเชื้อโคโรนา 2019 จำนวน 3 คน ส่วนอีก 3คนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ทำให้ยอดรวมล่าสุด จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 50 ราย แยกออกเป็นรักษาหายแล้ว 31 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 18 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ภาพรวมสถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 25 ของโลก
ส่วนกรณีที่วานนี้ (6มี.ค.) มีการให้ข้อมูลว่าแรงงานหญิงไทยนอกระบบ อายุ 30 ปีที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ผลการตรวจเชื้อ ในครั้งแรกผลเป็นบวก แต่หลังจากที่นำไปตรวจเพิ่มเติมในแล็บ อีก 2 แห่งปรากฏว่าเป็นลบ แต่ยังคงต้องอยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวังติดตามอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน
นอกจากนี้พบว่าประชาชนให้ความสนใจตื่นตัวกับการเฝ้าระวังและต้องการข้อมูลของโรคจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 จากเดิมที่มีผู้โทรมาขอรับบริการข้อมูลข่าวสาร แค่หลัก 100 สายต่อวัน ขณะนี้มีผู้โทรมาขอใช้บริการเกือบ 2,000 สายต่อวัน ข้อมูลล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 7 มีนาคมมีประชาชนมาโทรสอบถามขอข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้แล้วเกือบ 20,000 สาย แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะดูทำงานตลอด 24 ชั่วโมงแต่ก็มีคู่สายไม่เพียงพอที่จะให้บริการได้ทุกคน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มช่องทางในการติดต่อให้กับประชาชนทั้งทาง Twitter ,Facebook ,LINE OFFICIAL ,แอปพลิเคชัน TikTok ในชื่อ “ไทยรู้ สู้โควิด” และ LINE OFFICIAL Chatbot 1422 “KOR-ROR-OK” เพื่อนำมาใช้เพิ่มเติมนอกจากสายด่วน 1422 .-สำนักข่าวไทย