ส.อ.ท.ระบุจีเอ็มถอนตัวไม่กระทบเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้

กรุงเทพฯ 17 ก.พ. –  ส.อ.ท.ระบุจีเอ็มประกาศยุติผลิตรถยนต์ในไทยปีนี้มีผลจิตวิทยา แต่จะไม่กระทบเป้าผลิตปีนี้  2 ล้านคัน ส่งออก 1 ล้านคัน ขายในประเทศ 1 ล้านคัน แนะรัฐแก้ปัญหาบาทแข็งค่า


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท  เจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ประกาศยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยสิ้นปีนี้ว่า นับเป็นเรื่องของแผนการบริหารกิจการของจีเอ็มว่าจะเลิกผลิตหรือเพิ่มการผลิตในจุดใดบ้าง เพราะทางจีเอ็มลงทุนในประเทศจีนด้วยเช่นกันยอดขายกว่า 3 ล้านคัน ประสบผลสำเร็จสำหรับการลงทุนในเอเชีย ซึ่งปีที่ผ่านมายอดขายลดลงประมาณร้อยละ 9 ยอดขายในประเทศไทยรถกระบะยอดขายปีที่ผ่านมาก็ลดลงเช่นกัน และ 2 ปีที่ผ่านมายกเลิกการผลิตรถยนต์นั่งในประเทศไทยไปแล้วเช่นกัน ด้านโรงงานผลิตรถยนต์ ทางจีเอ็มขายให้กับเกรท วอล มอเตอร์ส์  ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจีน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยไม่น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนอะไร เพราะจีเอ็มไม่มีบทบาทมากนักในไทย แต่ด้านจิตวิทยานั้น มีผล เพราะจีเอ็มเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีมาแล้วเติบโตในสหรัฐอเมริกา และยอมรับว่าการประกาศยุติการผลิตของจีเอ็ม มีผลกระทบต่อแรงงานและผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ป้อนให้กับจีเอ็มบ้าง 


“เรื่องนี้ถือเป็นข้อเตือนใจต่อภาครัฐว่าควรสร้างบรรยากาศในประเทศให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านยอดขายในประเทศและการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงด้านการส่งออก ประเทศไทยมีปัญหาเงินบาทแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก ซึ่งการส่งออกมี 2 รูปแบบ คือ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนรถยนต์ การที่เงินบาทแข็งกระทบต้นทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่วนผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นจะถอนตัวออกจากประเทศไทยตามจีเอ็มหรือไม่นั้น จะต้องติดตามต่อไปว่า การประกอบธุรกิจอยู่ในไทยแข่งขันได้หรือไม่ โดยต้องคำนึงระยะยาว ส่วนจุดแข็งของไทยคือการมีซัฟพลายเชนที่แข็งแกร่ง” นายสุรพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มาสด้าทนเรื่องเงินบาทแข็งค่าไม่ไหว จึงย้ายฐานการผลิตรถยนต์บางรุ่นที่ผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้นไปผลิตในประเทศญี่ปุ่น ด้านแรงงาน การประกาศยุติการผลิตของจีเอ็ม มีผลกระทบต่อแรงงานและผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ป้อนให้กับจีเอ็มบ้าง จึงขอเตือนภาครัฐให้ส่งเสริมรถยนต์ที่ใช้ฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงควบคู่กับการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าจนไม่เหลียวมองรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หากเงินบาทยังคงแข็งค่าผู้ประกอบการรถยนต์อาจทนไม่ไหวเช่นกัน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จีเอ็มมียอดขายในประเทศต่ำกว่าร้อยละ  2 ของภาพรวมยอดขายรถยนต์ในไทยที่มียอดปีละประมาณ  1 ล้านคัน การไม่มีรถยนต์เชฟโรเลตให้กับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ ก็มีรถยนต์อื่นที่ทดแทนได้ ดังนั้น ทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ยังคงยืนเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ปี 2563 ไว้ที่ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 1 ล้านคัน และส่งออก 1 ล้านคัน


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า เป็นเรื่องของการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่แข่งขันในตลาดไม่ได้ส่วนแบ่งตลาดลดลงก็ถอยออกไปจากธุรกิจ รายใดแข่งขันได้ธุรกิจก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BMW ธนบุรีประกอบยนต์ และมาสด้า เป็นต้น  ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 

สำหรับตลาดรถยนต์ในภาพรวมของประเทศไทยปีนี้ไม่สดใส แต่พอไปได้ไม่เลวร้าย โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ยังคงตั้งเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ของทุกค่ายรถยนต์รวมกันไว้ที่ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศและผลิตเพื่อส่งออกจำนวน 1 ล้านคันเท่ากัน ขณะที่ตลาดส่งออกสงครามการค้าขณะนี้เริ่มคลี่คลายลงไปบ้าง แต่ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีอยู่จะต้องติดตามต่อไปว่าจะกระทบนานเพียงใด

“การตัดสินใจยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยของจีเอ็ม ถือเป็นการตัดสินใจของฝ่ายบริหารของจีเอ็มเอง เพราะการแข่งขันระดับโลกจะมีการพิจารณาว่าลงทุนต่อในประเทศไหนหรือไม่ และขึ้นกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ออกมาสู่ตลาดด้วยว่าเทคโนโลยีของผู้ผลิตรายได้จะครองตลาดได้ จึงมีทั้งฝ่ายที่ได้และฝ่ายที่เสียในการแข่งขัน แต่ถ้าหากตลาดแย่ลงอย่างรุนแรงก็เสียหายกันหมด แต่ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.มองว่าความต้องการรถภาพรวมปีนี้จะเท่ากับปีที่ผ่านมา จึงตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ไว้ที่ 2 ล้านคัน ตลาดจึงต้องมีผู้ได้และเสียในตลาดนี้” นายสุพันธุ์ กล่าว

 นายสุพันธุ์ กล่าวว่า การประกาศยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยนั้น ไม่กระทบภาพลักษณ์ต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยด้วยเหตุผลว่าประเทศไทยไม่ดีจึงถอนตัวออกไป เพราะขณะนี้หลายค่ายเข้ามาทำธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทยสามารถเติบโตได้ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]