5 ค่ายรถหยุดผลิตช่วงสั้น ยืนยันเป้าผลิตปีนี้ 1.9 ล้านคัน

กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เผย 5 ค่ายรถยนต์หยุดไลน์การผลิตรถยนต์และให้พนักงานทำงานที่บ้านป้องกันโควิด-19 คาดกระทบยอดผลิตหลักหมื่นคัน ยืนเป้าผลิตทั้งปี 1.9 ล้านคัน แต่หากมีความต้องการรถในตลาดเพิ่มขึ้นก็เร่งการผลิตได้ เพราะเคยมีประสบการณ์ผลิตมากถึงปีละ 2.4 ล้านคัน ในช่วงส่งมอบรถยนต์ตามโครงการรถยนต์คันแรกปี 2555-2556 


5 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในไทยประกาศหยุดไลน์การผลิตเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มต้นด้วย บริษัท ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด, บริษัท มาสด้า  เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส์  (ประเทศไทย)จำกัด และบริษัท โตโยต้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  (ส.อ.ท.) เปิดเผยสำนักข่าวไทยว่า การหยุดไลน์ผลิตของ 5 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อให้สอดคล้องสภาพตลาดและต้องการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 สอดคล้องกับนโยบาย Social Distancing ของรัฐบาล พร้อมกำชับให้พนักงานต้องไม่เดินทางกลับไปภูมิลำเนาต่างจังหวัด เพื่อป้องกันการออกไปแพร่เชื้อหรือรับเชื้อโควิด-19  


สำหรับการหยุดไลน์ผลิตรถยนต์ครั้งนี้ เบื้องต้นประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการผลิตรถยนต์หลายหมื่นคัน ซึ่งข้อมูลนี้แต่ละบริษัทยังไม่ได้มีการรายงานเข้ามาอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การหยุดไลน์การผลิตเดือนเมษายนเป็นเรื่องที่ทำกันอยู่แล้วปกติทุกปี เพราะมีวันทำงานน้อยและยอดผลิตรถยนต์ต่ำกว่าเดือนอื่น โดยยอดผลิตประมาณ 140,000-150,000 คันเท่านั้น ซึ่งการผลิตเดือนเมษายนปีนี้ น่าจะมียอดผลิตลดลงเหลือประมาณ 120,000 คัน เท่ากับปี 2560 แต่การหยุดไลน์การผลิตปีนี้เหตุผลไม่ใช่เพื่อให้พนักงานไปร่วมเทศกาลสงกรานต์  แต่มีวัตถุประสงค์หยุดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19  และระยะเวลาการหยุดไลน์การผลิตเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาจะพบว่าจำนวนวันที่หยุดไลน์การผลิตอาจจะไม่มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมามากนักในบางผู้ผลิต อีกทั้งก่อนหยุดไลน์การผลิตก็มีการวางแผนและหารือร่วมกับซัพพลายเออร์ผู้ป้อนชิ้นส่วนรถยนต์มาก่อนหน้านี้แล้ว   

ดังนั้น ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจึงไม่มาก และหากความต้องการรถยนต์ทั้งการส่งออกและการขายในประเทศเพิ่มขึ้น  ผู้ผลิตพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างทันท่วงที เพราะเคยผลิตรถยนต์ในจำนวนมาก เพื่อส่งมอบลูกค้าตามโครงการรถยนต์คันแรกปี 2555-2556 ซึ่งขณะนั้นผลิตได้มากถึง 2.4  ล้านคันต่อปี แบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 1 ล้านคัน และขายในประเทศอีกประมาณ 1.3-1.4 ล้านคัน โดยการส่งมอบรถยนต์คันแรกเสร็จสิ้นเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2556 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า  ก่อนหน้านี้พนักงานทำงานในสำนักงานของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้รับมอบหมายให้ไปทำงานจากที่บ้านมาแล้ว โดยยังคงได้รับเงินเดือน เพื่อเลี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19  พนักงานกลุ่มทำงานในโรงงานผลิต โรงงานประกอบรถยนต์ ที่มีพนักงานจำนวนมากก็เช่นกัน จำเป็นต้องป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย เพราะแม้มีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย มีเจลล้างมือ แต่ความไม่แน่นอนอาจเกิดขึ้นได้ เพราะบางคนอาจติดเชื้อแล้วก็เป็นได้ การกักตัว 14 วันบางคนไม่แสดงอาการเป็นไข้ แต่เมื่อตรวจที่โรงพยาบาลกลับพบว่าติดโควิด-19 คน หนุ่มสาวสุขภาพแข็งแรง จึงอาจเป็นพาหะของโรคได้ 


นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้จากที่ได้แถลงปรับลดมาแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการปรับลดการผลิตในภาพรวมลง 100,000 คัน จากเป้าเดิมตั้งไว้ว่าปีนี้จะผลิตได้รวม 2 ล้านคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน น้อยกว่าปี 2562 จำนวน 113,710 คัน ซึ่งลดลงร้อยละ 5.65 แบ่งเป็นด้านการผลิตเพื่อส่งออกปรับลดจากเป้าเดิม  50,000 คัน จากเดิมตั้งเป้าผลิต 1 ล้านคัน เหลือ 950,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,037,164 คัน หรือลดลง 87,164 คัน  คิดเป็นร้อยละ 8.4 

การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศปรับลดจากเป้าเดิม 50,000 คัน จากเป้าเดิม 1 ล้านคัน เหลือผลิต 950,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 976,546 คัน คิดเป็น 26,546 คัน หรือลดลงร้อยละ 2.72 นอกจากนี้ ยังปรับลดเป้าหมายในส่วนของรถจักรยานยนต์  จากประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ปี 2563 เดิม โดยปรับลดลง 50,000 คัน เป็นผลิต 2,050,000 คัน แต่ยังผลิตมากกว่าปี  2562 จำนวน 101,520 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.21 โดยผลิตเพื่อส่งออก คงเป้าการผลิตเดิม 400,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 364,050 คัน เป็น 35,950 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.88 ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ปรับลดจากเป้าเดิมลง 50,000 คัน เป็นผลิต 1,650,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,584,430 คัน เป็น 65,570 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.14.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]