กรุงเทพฯ, เพชรบุรี 24 ม.ค.-“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขอบคุณอัยการที่ให้ความเป็นธรรม หลังสั่งไม่ฟ้อง 7 ข้อหาคดี “บิลลี่” พร้อมยืนยันตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับกรณี “บิลลี่” ตลอดเวลาที่ผ่านมา ครอบครัวและตนเองต้องทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งคืนสำนวนการสอบสวนจำนวน 17 แฟ้ม ในคดีที่ดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย และความผิดฐานอื่นๆ ซึ่งพนักงานอัยการได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนการดำเนินการ เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเอกสารจากอัยการแล้วก็ต้องมาดูว่า อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในทุกข้อหา หรือสั่งไม่ฟ้องในข้อหาใดบ้าง จากนั้นจะมาพิจารณาในข้อหาที่สั่งไม่ฟ้อง ว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วยเหตุผลอะไร ในกรณีที่ดีเอสไอเห็นด้วยกับเหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็จะไม่มีความเห็นแย้งในการสั่งคดี และคดีในข้อหานั้นก็จะจบลงตามการสั่งคดีของอัยการ แต่หากดีเอสไอไม่เห็นด้วยก็เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ที่จะส่งความเห็นแย้งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดตามกฎหมายต่อไป
“ชัยวัฒน์” ดีใจหลังทนทุกข์
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปัตตานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เผยว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวจากทางสื่อมวลชน ว่าสั่งไม่ฟ้องเกือบหมด เหลือเพียงคดีน้ำผึ้งป่า ต้องกราบขอบพระคุณอัยการที่ให้ความเมตตาและให้ความเป็นธรรมตนเองกับลูกน้องอีก 3 คน
จนถึงนาทีนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับกรณีนายบิลลี่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองพอรับได้ แต่ครอบครัวได้รับผลกระทบมาก ที่สำคัญลูกน้องและครอบครัวของลูกน้องต่างก็ได้รับความเสียหาย ครอบครัวและตนเองต้องทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส และหากไม่มีเงินประกันตัวป่านนี้ก็คงต้องนอนอยู่ในเรือนจำ
ทนายบิลลี่อาจฟ้อง “ชัยวัฒน์” เอง
นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทนายความ กล่าวว่า แม้พนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ และพวก ในข้อหาฆาตกรรมและข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวนายบิลลี่ แต่ยังมีข้อหาอื่นๆ อีก ซึ่งต้องให้ดีเอสไอทำตามอำนาจหน้าที่ นายสุรพงษ์ กล่าวถึงการฟ้องร้องนายชัยวัฒน์ กับพวก ว่าอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้ภรรยาของนายบิลลี่ ในฐานะผู้เสียหาย ยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีอาญาเองหรือไม่
รองเลขาฯ อสส.เผยยกฟ้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการพิจารณาเอกสารหลักฐาน สำนวนคดีที่ดีเอสไอส่งมาให้ แต่เมื่อพิจารณาแล้วน้ำหนักในทางคดีไม่มากพอ จึงต้องมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เช่นเดียวกับการพิจารณาคดีอื่นๆ หลังจากนี้ดีเอสไอสามารถยื่นแย้งกลับมายังอัยการได้ โดยที่ไม่ต้องหาพยานหลักฐานใดมาเพิ่ม เพียงแค่ทำเรื่องยื่นแย้ง จากนั้นอัยการสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณา โดยกฎหมายไม่ได้ระบุระยะเวลาที่จะยื่นแย้ง แต่หากจะทำขอให้ดีเอสไอคำนึงถึงระยะเวลาของคดีความด้วย.-สำนักข่าวไทย