“ชัยวัฒน์” รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม 2 ข้อหา คดีบิลลี่

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.- “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวกรวม 4 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพิ่มอีก 2 ข้อหา ในคดีการหายตัวไปของ “พอละจี รักจงเจริญ” หรือบิลลี่ รวมแจ้งแล้ว 9 ข้อหา ขณะที่เจ้าตัวยังยืนยันความบริสุทธิ์


นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวกรวม 4 คน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ 2 ข้อหา ในคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 คือ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 309 ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้อาวุธ ทำให้เกิดอันตรายต่อสิทธิเสรีภาพและทรัพย์สิน

นายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน เดินทางมาถึง และเข้าพบอธิบดี DSI จากนั้นให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน


นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ไม่หนักใจในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนที่ถูกแจ้งเพิ่มก่อนหน้านี้ เพราะข้อหาร่วมกันฆ่าต้องมีอาวุธด้วย แต่กรณีนี้แจ้งฆ่าโดยไม่มีอาวุธ ขาดความสมบูรณ์ การเรียกมาแจ้งข้อหาตามมาตรา 309 คือ ข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้อาวุธ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบนี้ดีกว่า เพราะเชื่อมั่นในตัวเองว่าไม่ได้ทำ จะได้พิสูจน์กันในชั้นศาล ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเหตุเกิดเมื่อไร ส่วนหลักฐานต่างๆ ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง วันที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานจึงจะรู้ว่ามีหลักฐานอะไรบ้าง

นายชัยวัฒน์ กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีเข้ารับราชการใหม่เมื่อวานนี้ อาจคุกคามพยานและผู้เกี่ยวข้องว่า ตนไม่เคยคุกคามผู้อื่น มีแต่ถูกคนอื่นและบางองค์กรคุกคาม โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดคดีนี้มา โดนคุกคามตลอด เมื่อถึงวันครบรอบที่บิลลี่หายตัวไป มาถึงวันนี้ก็ยังโดนคุกคาม ขอบอกว่าไม่ต้องกลัวว่าตนจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน เพราะคดีนี้ไม่มีหลักฐาน เนื่องจากตนและน้องๆ อีก 3 คน ไม่ได้ทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบคำถามในช่วงนี้ นายชัยวัฒน์ มีเสียงที่สั่นเครือตลอดเวลา


ขณะที่นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวน DSI นัดนายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 309 ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้อาวุธ ทำให้เกิดอันตรายต่อสิทธิเสรีภาพและทรัพย์สิน ส่วนข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้แจ้งข้อหาไปก่อนแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้รวมแจ้งข้อกล่าวหา 9 ข้อหาแล้ว โดยกรณีนี้ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และหากไม่มีอะไรผิดพลาด จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งให้อัยการวันที่ 5 กันยายน เพื่อสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป วันนี้ถือเป็นการดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายของดีเอสไอตามที่อัยการสั่งมา และไม่หนักใจ เพราะดีเอสไอยึดตามพยานหลักฐานและให้เกียรติทุกฝ่าย

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1 เดินทางมาพร้อมกับนายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก