อสส.สั่งฟ้อง “ชัยวัฒน์” คดีร่วมกันฆ่า “บิลลี่”

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.- อัยการสูงสุด ยืนยันมีคำสั่งฟ้อง “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 คน คดีร่วมกันฆ่า “บิลลี่” โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่งสำนวนให้อัยการคดีพิเศษ 1 ออกหมายนัดส่งฟ้องศาล


นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด เปิดเผย ว่าได้มีคำสั่งชี้ขาดความเห็นเเย้งให้ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 คน ฐานร่วมกันฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดีจริง โดยขั้นตอนหลังจากนี้สำนวนถูกส่งมายังนายพรชัย ชลวาณิชกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โดยอธิบดีจะจ่ายสำนวนไปให้อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เพื่อออกหมายนัดตัวนายชัยวัฒน์ กับพวก ผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาลต่อไป


นายประยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้อัยการคดีพิเศษเคยมีความเห็นสั่งฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ 157 เเละฐานสนับสนุนกับผู้ต้องหาที่ 4 ไปเเล้ว ส่วนข้อหาอื่นที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง อธิบดีดีเอสไอเเย้ง ต่อมานายสิงห์ชัย อสส. ก็ชี้ขาดเห็นเเย้งให้ฟ้อง 4 ข้อหา ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เเละสั่งไม่ฟ้องข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ มาตรา 340 ประกอบ 83 ไม่ฟ้องร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ตามมาตรา 147 ประกอบ 83 เจ้าพนักพนักงานปล้นทรัพย์ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำเเหน่งหน้าที่โดยมิชอบ 148 (83) ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 ก็ไม่ผิดตามมาตรา 148 ฐานสนับสนุน ไม่ฟ้องกรรโชกทรัพย์ ตามมาตรา 337 โดยในคำชี้ขาดของอัยการสูงสุดระบุชัดเจนให้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง โดยหลังจากนี้ หากอัยการสำนักงานคดีพิเศษร่างฟ้องเสร็จ ก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยื่นฟ้องต้อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เเละข้อหาที่อัยการสูงสุดชี้ขาดฟ้องคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยทุจริตหรืออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 249(4) (7), 309, 310 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 มาตรา 5

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วง ม.ค.63 อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 มีคำสั่งไม่ฟ้องหลายข้อหา ในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนคดีอาญาให้สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาคดีระหว่าง น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ กับพวกรวม 2 คน ผู้กล่าวหา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร, นายบุญแทน บุษราคัม, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงศ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 1-4 นั้น


โดยขณะนั้น นายฐาปนา ใจกลม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้จ่ายสำนวนให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณาตั้งคณะทำงาน โดยคณะทำงานร่วมกันตรวจพิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่า สำหรับข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานพอฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่ จึงเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-3 ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/2, 172 และเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น

ส่วนข้อกล่าวหาอื่น คณะทำงานเห็นว่า ทางคดีไม่มีประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมใดๆ เพียงพอที่จะเชื่อมโยงว่าผู้ต้องหาทั้งสี่ได้ร่วมกันกระทำผิด มีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง จึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง

สำหรับข้อหาร่วมกันฆ่าบิลลี่ คณะทำงานเห็นว่า ในชั้นนี้พยานหลักฐานไม่พอฟ้อง จึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่เช่นกัน ซึ่งต่อมาทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นเเย้งคำสั่งของอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ตามขั้นตอน จึงต้องส่งให้จนอัยการสูงสุดชี้ขาดในครั้งนี้

“ชัยวัฒน์” ยังไม่เห็นคำสั่งอัยการสูงสุด “คดีบิลลี่” แต่พร้อมสู้

จากกรณีมีข่าวอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าพญาเสือ และ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว ทราบจากที่สื่อโทรมาสอบถาม แต่ส่วนตัวแล้วไม่หนักใจ กลับมองเป็นเรื่องที่ดีจะได้ต่อสู้ให้จบกันในชั้นศาลโดยพยานหลักฐาน ไม่เช่นนั้นแต่ละปีจะมีการหยิบเรื่องบิลลี่ขึ้นมาโจมตีอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่าเป็นกระบวนการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ สงสารลูกน้องอีก 3 คน ซึ่งต้องมาลำบาก สังคมทั่วไปย่อมรู้อยู่ว่ามีกระบวนการที่มาเล่นงานตนเป็นช่วงๆ สิ่งที่ตนต่อสู้และปกป้องผืนป่าและทรัพยากร มีผลกับกลุ่มคนเหล่านี้ หลักๆ เป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากกระบวนการค้ามนุษย์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย

ชื่นมื่น! 5 พรรคร่วมฝ่ายค้านประสานมือ ต้อนรับน้องใหม่ “ภท.”

รัฐสภา 3 ก.ค.- “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ชื่นมื่น ประสานมือ 5 พรรค ต้อนร้บน้องใหม่ “ภูมิใจไทย” ด้าน “ณัฐพงษ์” ถกแนวทางแสวงหาจุดร่วมเพื่อผลักดัน ย้ำ ไม่ก้าวก่ายจุดยืนข้อแตกต่าง “อนุทิน” ปลื้ม ถูกต้อนรับอบอุ่น ยัน พร้อมตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนัดแรก ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อหารือทิศทางการทำงาน โดยแกนนำแต่ละพรรคที่เข้าร่วม มีดังนี้ แกนนำพรรคประชาชน ประกอบด้วยนายณัฐพงษ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค แกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วยนายอนุทิน […]

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]