ย้ำ รพ.เอกชน คุมเข้มระบบคัดกรองผู้ป่วย ป้องกันไวรัสปอดอักเสบในไทย

กรม สบส. 8 ม.ค.- กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการ รพ.เอกชน/คลินิก เข้ม 4 มาตรการคัดกรองผู้ป่วยป้องกันการระบาดของไวรัสปอดอักเสบ แนะหากพบผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีที่มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสปอดอักเสบหลายราย ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ขณะนี้จะยังไม่พบรายงานการเสียชีวิต และสาเหตุของการก่อโรค แต่เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่กระจายของโรคในประเทศไทย กรม สบส.จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการโรงพยาบาลเอกชน/คลินิกทุกแห่ง โดยเฉพาะในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าออกอย่างพลุกพล่าน อาทิ สีลม สุขุมวิท ฯลฯ จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวัง และการคัดกรองผู้ป่วยของสถานพยาบาล ใน 4 มาตรการ


ประกอบด้วย 1. มีการติดป้ายแสดงข้อความบ่งชี้อาการของผู้เข้าข่ายต้องสงสัยโรค เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และเจ้าหน้าที่ให้เห็นได้ชัดเจนในสถานพยาบาล 2. จัดตั้งหน่วยคัดกรองเป็นช่องทางเฉพาะ แยกจากผู้ป่วยนอกทั่วไปหรือห้องฉุกเฉิน ให้บริการสำหรับผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัย 3. หากสถานพยาบาลมีการนัดหมายผู้ป่วยจากประเทศจีน หรือประเทศที่พบการระบาดของโรคให้มีกระบวนการคัดกรองผู้ป่วยอย่างเข้มงวด และ 4. การส่งต่อผู้ป่วยที่ต้องสงสัยหรือเข้าเกณฑ์จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด มีการประสานและรายงานข้อมูลไปยังกรมควบคุมโรค ห้ามปล่อยให้ผู้ป่วยเดินทางไปรับการรักษาต่อด้วยตนเอง


ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า กรม สบส.ได้มอบหมายให้กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ส่งหนังสือแจ้งเวียนมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้ป่วยแก่สถาน พยาบาลเอกชน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน และหากพบผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีอาการป่วยด้วยไข้สูง หรือมีอาการติดเชื้อที่ปอดและทางเดินหายใจอย่าได้นิ่งนอนใจ ขอให้รีบรายงานไปที่กรมควบคุมโรค ผ่านสายด่วน 1422 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมมิให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโดยทันที .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”