เตือนหญิงไทย “รับจ้างอุ้มบุญ” ผิด กม.ทำลายสุขภาพ-อนาคตเด็ก

สธ.2ก.ค.-กรม สบส.เตือนหญิงไทยไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง รับจ้างอุ้มบุญทั้งในและต่างประเทศ ทำลายสุขภาพตนเองและอนาคตเด็ก แนะปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง ได้รับการดูแลรอบด้าน ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนจบกระบวนการ


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบัน กรม สบส.ได้ดำเนินการพิจารณาอนุญาตให้ตั้งครรภ์แทนแล้ว 344 ราย โดยกฎหมาย “พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558” กำหนดให้การขออนุญาตตั้งครรภ์แทนกระทำได้ในคู่สามีภริยาคนไทยที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคนไทยที่สมรสกับชาวต่างชาติมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และหญิงที่รับตั้งครรภ์แทนต้องอายุระหว่าง 20-40 ปี และเคยมีบุตรมาแล้ว ประการสำคัญ กฎหมายห้ามมิให้ดำเนินการอุ้มบุญเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยเด็ดขาด 

ส่งผลให้ผู้ต้องการมีบุตรแต่ไม่เข้าเกณฑ์ตามกฎหมาย หรือผู้ที่ต้องการรับจ้างอุ้มบุญทางการค้าแอบลักลอบไปรับบริการอุ้มบุญที่ต่างประเทศ ซึ่งการที่หญิงไทยเดินทางไปรับจ้างอุ้มบุญในประเทศที่ไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์เป็นการเฉพาะนั้น ย่อมมีความเสี่ยงในหลากหลายด้าน ทั้งในด้านสุขภาพ ร่างกาย หรือสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กที่เกิด เนื่องด้วยการไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่ชัดเจนในการดูแลสุขภาพแก่หญิงอุ้มบุญ หรือกำหนดความเป็นบิดาและมารดาของเด็ก 


ดังนั้น หากเกิดการเจ็บป่วยจากการตั้งครรภ์แทนก็มิอาจเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลจากคู่สามีภริยา หรือหากเด็กที่เกิดมีความพิการก็อาจจะทำให้เกิดการทอดทิ้งเด็กได้ ต่างจากประเทศไทยที่มีพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 ควบคุม กำกับเป็นการเฉพาะ โดยกำหนดให้สามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายมีการทำข้อตกลงกับหญิงที่รับตั้งครรภ์แทน ในการเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพ หรือเมื่อได้รับความเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการรับตั้งครรภ์แทนแก่หญิงที่รับตั้งครรภ์แทน อีกทั้ง กำหนดความเป็นบิดาและมารดาของเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีฯ ไว้อย่างชัดเจน ห้ามมิให้สามีภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายปฏิเสธการรับเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนโดยเด็ดขาด จึงมั่นใจได้ว่าทั้งหญิงที่รับตั้งครรภ์แทนและเด็กจะได้รับการดูแลอย่างรอบด้านตั้งแต่ระหว่างการตั้งครรภ์และภายหลังการคลอด

ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส.กล่าวว่า สำหรับผลกระทบต่อหญิงที่ขายไข่ หรือรับจ้างอุ้มบุญนั้น นอกจากเรื่องสุขภาพแล้วทางด้านสังคมก็มีความรุนแรงไม่แพ้กัน อย่างกรณีของหญิงที่ทำการขายไข่จะ จะถูกฉีดยาเร่งไข่ในปริมาณมาก ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีการคั่งของน้ำในช่องท้อง หัวใจล้มเหลว หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และอาจเกิดการตกเลือด หรือการอักเสบติดเชื้อ สูญเสียความสามารถในการมีบุตรของตนเองในอนาคตได้ 

ส่วนหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญนั้น ก็มีความเสี่ยงทั้งทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจากจะมีการใส่ ตัวอ่อนในปริมาณมากเพื่อหวังผลให้มีบุตรมากกว่าการคำนึงถึงความปลอดภัยของหญิงที่มารับจ้างอุ้มบุญ  มีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์เช่น การตกเลือด โรคพิษแห่งครรภ์ ภาวะมดลูกแตกและเสียชีวิตได้ รวมทั้งหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญถือเป็นมารดาของเด็กที่จะเกิดมา ซึ่งจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และอาจส่งผลกระทบกับครอบครัวและการใช้ชีวิตของหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญ อีกทั้ง การกระทำดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการค้ามนุษย์ ก่อให้เกิดปัญหาต่อเด็กและสังคมตามมา จึงขอกำชับให้ผู้ที่มีความคิดที่จะดำเนินการอุ้มบุญเพื่อประโยชน์ทางการค้าคิดเสียใหม่ ไม่นำอามิสสินจ้างเพียงเล็กน้อยมาแลกกับสุขภาพตน ความปลอดภัย และอนาคตเด็กที่เกิด


ทั้งนี้ การดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนสามารถกระทำได้ในสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (https://mrd-hss.moph.go.th/) โดยขณะนี้มีจำนวน 100 แห่งทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน