สธ.14 ก.ค.-สธ.จัดประชุมชี้แจงแนวทางทางการจัดการสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) สำหรับผู้ป่วยชาวไทยที่กลับจากต่างประเทศ ชาวต่างชาติ ผู้ติดตามที่ต้องการเข้ารับการรักษาในประเทศไทย กำหนดเกณฑ์คัดเลือกผู้ป่วย และประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและปานกลาง
บ่ายวันนี้(14 ก.ค.) ที่อาคารกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)กระทรวงสาธารณสุข นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุม “ชี้แจงแนวทางการจัดทำ Alternative Hospital Quarantine สำหรับผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมผู้ติดตาม” โดยมีผู้แทนจากสถานพยาบาลภาครัฐ และเอกชน ที่แสดงความจำนงเข้าร่วมเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือกเข้าร่วมการประชุม
นายธนิตพล ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยมีการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) จนได้รับการยอมรับว่าประเทศไทยมีความมั่นคงทางด้านสุขภาพเป็นอันดับหนึ่งของโลก และรัฐบาลได้มีนโยบายในการรับชาวไทยกลับเข้าประเทศและชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้ามารับการรักษาพยาบาลในไทย ทั้งโรคที่รอการรักษา (Elective Disease) และโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่อง จากปัจจัยความพร้อม ในการจัดบริการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก
รวมทั้งความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์และเครื่องมืออุปกรณ์ ที่ทันสมัย มีจำนวนสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) มากที่สุดในอาเซียน มาตรฐาน HA และค่ารักษาพยาบาลมีความเหมาะสม กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงได้จัดทำมาตรการ Alternative Hospital Quarantine (14 วัน) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติในสถานพยาบาล และผู้ติดตาม สร้างระบบการกักตัว ร่วมกับการรักษาพยาบาล (Treatment) ในสถานพยาบาล เพื่อให้กลุ่มนี้ได้รับการดูแลรักษาอย่างเป็นระบบ และเป็นการเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ตามหลักเกณฑ์และแนวทางการควบคุมป้องกันโรค
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สบส.กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญผู้แทนจากสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน ชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการ การตรวจสอบเอกสารผู้ป่วย การตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และขั้นตอนการดำเนินการระบบกักตัวผู้ป่วย รวมถึงผู้ติดตาม ที่ถูกต้องเหมาะสม มาตรฐานเดียวกัน ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ป่วย อาทิ ต้องตรวจโควิด-19 ไม่พบก่อนเข้าประเทศและตรวจในประเทศอีก 3ครั้งเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น ระยะนอนโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 3-5 วัน กระบวนการรักษาไม่เป็นหัตถการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขและมาตรการที่กำหนดในคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ครบถ้วน ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกประเทศ จะเลือกประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และปานกลางก่อน
ขณะนี้มีสถานพยาบาลแสดงความจำนงเข้าร่วมเป็นสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือกแล้วกว่า 100 แห่ง ซึ่งประมาณการว่าจะมีผู้ป่วยต่างชาติ ที่จะเข้ารับบริการรักษาพยาบาลมากกว่า 900 ราย ทั้งนี้ ยังไม่มีการอนุญาตให้ผู้ป่วยและผู้ติดตามรายใดเข้ามาในประเทศ ส่วนการกำหนดระยะเวลาให้เข้ามารักษาได้นั้น ต้องได้รับการพิจารณาจาก ศบค. อีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย