จ.นนทบุรี 22ก.ค.-กรมสบส.จัดประชุมหน่วยงานรัฐ-เอกชน เตรียมความพร้อมสถานกักกันโรคใน 44จังหวัด เมืองท่องเที่ยวหลัก-เป้าหมายการเดินทาง และประตูเข้าสู่ประเทศไทย รับการผ่อนปรนระยะ 6
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสุนนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางและประสบการณ์ดำเนินงานสถานกักกันโรคสู่พื้นที่จังหวัดเป้าหมายสำคัญในการเดินหน้าประเทศไทย ใน วันนี้ (22 ก.ค.) ที่โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ จ.นนทบุรี
นพ.ธเรศ ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ยังคงมีให้พบเห็นอย่างต่อเนื่อง ในหลายภูมิภาคของโลก แม้ว่าหลายประเทศจะสามารถควบคุมโรคได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็พบว่ามีการแพร่ระบาดซ้ำในระลอกที่ 2 เกิดขึ้นอีก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่มีมาตรการในการควบคุม เฝ้าระวัง และมีระบบในการกักกันโรคที่ได้รับการยอมรับในสากล ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ เมื่อรัฐมีการผ่อนคลายให้มีการดำเนินกิจกรรม กิจการต่างๆ
โดยเฉพาะการผ่อนปรนในระยะที่ 6 ซึ่งจะอนุญาตให้กลุ่มบุคคลบางประเภทเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องมีการตระเตรียมมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่มีความเหมาะสม ซึ่งการจัดตั้งสถานกักกันโรคแห่งรัฐ(State Quarantine) สถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine)ในระดับรัฐ และการจัดตั้งสถานกักกันโรคท้องที่ (Local Quarantine) เพื่อใช้กักกัน แยกกัน เฝ้าระวังอาการของโรคโควิด-19 กับ ผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันนั้น เป็นหนึ่งในแนวทางที่ประจักษ์ชัดว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกัน ควบคุมโรคเป็นอย่างดี
“วันนี้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานเขตสุขภาพที่ 1-12 กระทรวงกลาโหม รพ.เอกชน และผู้ประกอบการโรงแรมที่ใช้เป็นสถานกักกันโรคทางเลือกฯลฯ มาร่วมรับฟังแนวทางดำเนินงาน และการจัดตั้งสถานกักกันโรคตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการสถานกักกันโรคในระดับท้องที่และสถานกักกันโรคท้องที่ทางเลือก (Alternative Local Quarantine) ในจังหวัดเป้าหมายที่มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ท่าอากาศยาน ด่านชายแดนระหว่างประเทศ เมืองท่องเที่ยวหลัก และเป็นเป้าหมายการเดินทางและเป็นประตูเข้าสู่ประเทศไทยทั้ง 44 จังหวัดเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมบนมาตรฐานเดียวกันตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด” นพ.ธเรศ กล่าว
สำหรับพื้นที่จังหวัดเป้าหมายทั้ง 44 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 10 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ภาคตะวันตก 2 จังหวัด ภาคใต้ 10 จังหวัด และภาคกลาง 3 จังหวัด .-สำนักข่าวไทย